“เจฟ ซาเตอร์” สนุกหลังชีวิตเป็นอิสระ สปอยล์คอนเสิร์ตร่วม “ชาอึนอู-บิวกิ้น”

ภายหลังจากที่ตัดสินใจออกมาเป็นอิสระ นักร้องและนักแสดงหนุ่ม “เจฟ ซาเตอร์” ออกมาอัพเดตชีวิตความเป็นศิลปิน ภายหลังจากไม่ต่อสัญญากับค่าย Be On Cloud

ชีวิตหลังออกมาเป็นนักแสดงอิสระแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
“จริงๆ ตอนนี้ก็ได้ร่วมทำงานกับ Warner Music ครับ แล้วก็โคกันกับ Studio On Saturn ช่วยกันดูแล ก็สนุกมาก ช่วงนี้ก็มีโปรเจ็กต์ที่น่าตื่นเต้นมากๆ ครับ”

พอออกมาดูแลตัวเอง ไม่มีค่ายซัพพอร์ตมันยากขึ้นไหม?
“ผมว่ามันยากขึ้นตรงที่ว่า เรามีคนน้อย สตูผมมีคนน้อยมากๆ แต่ดีที่มี Warner Music คอยช่วยเรื่องการดูแลต่างๆ สิ่งที่ยากคือพอมันต้องมาเบสจากผมคนเดียว เวลามันน้อยลง ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด ในแต่ละตารางงานที่มันผ่านไป ก็ยากเรื่องไทม์ไลน์นี่แหละ โดนตามเดโม่เพลงทุกวันเลยครับ ถ้าพี่ๆ ที่ Warner Music ฟังอยู่ ก็เห็นใจผมด้วย (หัวเราะ)”

ถามว่ายากกว่าการที่มีค่ายคอยป้อนงานไหม?
“มันแตกต่างมากกว่า มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะตัว Warner Music ก็คอยช่วยหางาน ช่วยซัพพอร์ตเราอยู่ตลอด แต่ก็จะมีฝั่งเราด้วย ที่ซัพพอร์ตตัวเราเอง ไปหาไดเร็กชั่นของเรา ตอนนี้ออกมาดูแลตัวเองได้ 2 เดือนแล้วครับ มันเป็นไดเร็กชั่นที่ต่างกันมากกว่า มันไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ แต่สำหรับผมรู้สึกว่ามันยากมากๆ ที่จะทำด้วยตัวคนเดียว แต่ในขณะเดียวกันมันสนุกตรงที่ว่า เราได้เป็นตัวเองในทุกๆ พาร์ตที่เราไป คือผมไม่เชิงอิสระขนาดนั้น เพราะเรายังทำงานร่วมกับ Warner Music แต่ความอิสระในการทำงานมันเต็มร้อยเลย เขาซัพพอร์ตเราในการที่เราอยากจะทำอะไร”

ตอนนี้จัดสรรชีวิตได้ลงตัวไหม?
“ไม่ลง (หัวเราะ) ยากมาก ชีวิตตอนนี้คือ…ด้วยการที่มันต้องทำเพลงในเวลาเดียวกัน แล้วก็จะมีโปรเจ็กต์การแสดงบ้าง คอนเสิร์ตบ้าง แล้วคอนเสิร์ตผมก็ไม่อยากให้เพลงมันเหมือนกันทุกคอนเสิร์ต เพราะตัวผมเองก็เบื่อด้วย ผมขี้เบื่อไง ก็อยากจะทำให้ทุกโชว์มันแตกต่าง คนดูจะได้รู้สึกว่า ทุกครั้งที่มาดูมันมีอะไรแปลกไป เพราะฉะนั้นการบริหารไทม์ไลน์ พังยับเยินอยู่เหมือนกัน (หัวเราะ) แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการนอน พยายามจะนอนให้ครบ แล้วเราค่อยมาเวิร์กเรื่องอื่นกัน แต่ดีที่มีคนคอยช่วยเสมอ ทั้งคนในสตูดิโอเอง และคนที่ Warner Music เองก็ช่วยกัน เรียกว่าการใช้ชีวิตกับการพักผ่อน ไม่สอดคล้องกันเลยครับ (หัวเราะ)

ทำงาน 7 วันเลยไหม?
“เนี่ยผมยังไม่รู้เลย วันนี้อะไรในสัปดาห์ คือพอเรารู้แค่วันที่ 25 วันที่ 26 เราจะลืมไปว่าวันนี้วันจันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส”

นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ค่อยได้นอน?
“เดือนนี้ทั้งเดือนครับ เพราะว่าช่วงนี้มันเป็นช่วงที่ต่อให้อยู่บ้านเราก็ต้องทำอัลบั้ม มันก็ค่อนข้างหนักมากๆ”

นับนิ้วสิว่าตอนนี้มีกี่งานในมือ?
“คือนิ้วมันไม่พอ เพราะว่ามันมีงานเพลง มีงานโชว์ มีงานแสดงซึ่ง มันคนละพาร์ตกัน พอมันเอามารวมกันแล้ว มันก็เลยหลายอย่าง”

งานแน่นไปถึงปีหน้าไหม?
“ผมก็ไม่รู้ (หัวเราะ) ผมใช้ชีวิตวันต่อวัน รู้แค่ว่าพรุ่งนี้ผมทำอะไร”

มีคนดูแลคิวให้ไหม?
“ก็มี เขาก็จะหยอดมา เขาจะค่อยๆ หยอดมาถามเราว่าจะให้เราบอกคิวแบบไหน จะเป็นอาทิตย์หรือเป็นวัน ก็เลยบอกว่าบอกว่าแจ้งคิวเป็นวันๆ แต่แจ้งตอนกลางคืนด้วย เพราะเดี๋ยวผมรับไม่ไหว”

งานเยอะส่งผลเรื่องสุขภาพไหม?
“ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่มันจะส่งผลถึงสุขภาพจิตมากกว่า ถ้าสุขภาพจิตเราดีมันจะช่วยถึงสุขภาพกายเราด้วย แต่ที่สำคัญที่สุดคือการนอน กินได้นอนหลับ แต่มันก็มีบางครั้งที่เราลืมกินข้าวไปเลย เพราะเป็นคนที่ตื่นเช้ามาจะไม่ชอบกินข้าวก่อนทำงาน กินไม่ค่อยลง ไปโฟกัสกับงานมันก็เลยเลยลืม (เครียดกับงาน?) ไม่ได้เครียดกับการทำงาน แต่มันโฟกัสเกิน มันสนุกกับการทำงานจนมันลืม พยายามจะนอนให้ได้ 8 ชั่วโมง แต่มันได้2ได้4ชม.”

แต่ไม่ลืมใช่ไหมว่าสิ้นเดือนนี้มีโชว์ใหญ่คอนเสิร์ต KonnecThai2023 ?
“ไม่ลืมครับ”

มีอะไรสปอยล์ไหม?
“สิ่งที่สปอยล์ได้มันคือจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (เดี๋ยวนอนโชว์) ก็อย่างที่บอกว่า 2 ชั่วโมง มันก็ต้องมีการแนบบนสเตจกันบ้าง(หัวเราะ)”