เคแมน เด็กช่างร้อยล้าน พร้อมทนายดัง โร่แจ้งตร.หลังถูกอดีตพนักงานสาว แฮกข้อมูลบริษัท เผยมูลค่าความเสียหายนับล้านบาท หวั่นโดนทำเสียชื่อเสียง

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 พ.ย. 2564 นายสิรภพ แจ้งชูช่วย เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “เคแมน เด็กช่างร้อยล้าน” พร้อมด้วยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง นำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.มงคล พฤกษชาติ รองผกก.(สอบสวน) สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เพื่อดำเนินคดีกับอดีตพนักงานหญิง อายุ 25 ปี ในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

หลังจากที่อดีตพนักงานบริษัทรายนี้ สวมรอยใช้ Account ของบริษัท ในการจัดส่งสินค้าผ่านขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ในนามตัวเอง โดยแฮกฐานข้อมูลและคำสั่งซื้อของลูกค้าบริษัท นำไปหาประโยชน์ส่วนตัว และได้ทำการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าตัดหน้าบริษัท โดยการเข้ามาดูข้อมูลที่เซลล์ได้ปิดการขาย และจัดส่งสินค้าที่ไม่ตรงปกให้กับลูกค้าโดยอ้างชื่อบริษัท อีกทั้งยังได้ดึงข้อมูลลูกค้าเก่า นานเกือบปีมูลค่าความเสียหายกว่าล้านบาท

นายสิรภพ กล่าวว่า หลักการที่เขาทุจริตเรา คือเวลาที่เซลล์ขายเสร็จจะต้องคีย์ข้อมูลเข้าระบบหลังบ้านที่โปรแกรมของเรา ก่อนที่เราจะจัดส่งสินค้าทางบริษัทขนส่งเอกชนใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน สินค้าก็จะถึงมือลูกค้าแต่กลับถูกพนักงานเก่าที่ลาออกไปจากบริษัทตั้งแต่ต้นปี แฮกเข้มาในระบบและรู้การทำงานของบริษัทรับออเดอร์วันนี้และส่งของในวันรุ่งขึ้น เขาก็เลยส่งสินค้าตัดหน้าเพื่อให้ลูกค้ารับของของเขาและปฎิเสธของเรา

ซึ่งแต่ละวันเขาไม่ได้ทำเยอะทำแค่วันละ 2-3 ออร์เดอร์ ซึ่งทางบริษัทตนส่งออร์เดอร์ลูกค้าเยอะมาก 2-3 ออร์เดอร์จึงไม่ได้ผิดสังเกตอะไร แต่เป็นออร์เดอร์ละ 990 บาท วันละ 2-3 ออร์เดอร์เขาก็จะได้รับเงินวันละ 2-3 พันบาทเดือนหนึ่งก็เป็นเงินหลักแสน และกรณีที่2คือแอบเอาข้อมูลของเราไปติดต่อโทรขายหรือไปติดต่อขายเอง คือฐานข้อมูลเป็นลูกค้าของเราแต่เขากลับเอาไปขายสินค้าของตัวเอง และไปแอบอ้างในนามของบริษัท ซึ่งเขาทำมาประมาณปีกว่าแล้ว ตั่งแต่เขายังทำงานอยู่กับเราตั้งแต่กลางปี 2563 คือแฟนเขาอยู่บ้านเขาก็คีย์ข้อมูลไปให้แฟนเขาเป็นคนดำเนินการ

ซึ่งตนเองก็รู้มานานแล้วแต่รอการรวบรวมหลักฐาน แต่ที่ชัดเจนเลยก็มีออร์เดอร์หนึ่งที่ลูกค้าโทรมาขอเปลี่ยนสถานที่ส่งสินค้า ซึ่งเราก็ดำเนินการเปลี่ยนสถานที่ส่งให้ แต่พอวันรุ่งขึ้นลูกค้าได้โทรมาบอกว่าเปลี่ยนที่อยู่แล้วทำไมยังส่งของไปที่เดิมอีก และเป็นสินค้าที่ลูกค้าไม่ได้สั่ง เราก็เลยเช็กกับทางบริษัทขนส่ง ก็พบว่าสินค้าเรายังอยู่ที่บริษัทขนส่งอยู่เลย จึงได้ให้ลูกค้าส่งกล่องสินค้าที่มีการส่งไปกลับมาให้ดูเพื่อตรวจสอบ จึงได้ทราบว่าเป็นอดีตพนักงานสาวที่ล่าออกไปเป็นคนส่ง

จึงได้เร่งตรวจสอบฐานข้อมูลลูกค้าย้อนหลังก็พบว่าประมาณปีเศษที่เขาเริ่มทำฐานข้อมูลลูกค้าร้อยเปอร์เซ็นต์ที่เขาขายไป เป็นข้อมูลลูกค้าของเราทั้งหมด ซึ่งทุกวันนี้เขาก็ยังทำอยู่เพราะเขายังไม่รู้ว่าเราจับผิดได้แล้ว ซึ่งมูลค่าความเสียหายถ้าเป็นสินค้าที่เขาส่งก็เกือบๆ 1 ล้านบาท แต่ถ้าเป็นมูลค่าความเสียหายของบริษัทก็ยังประเมินค่าไม่ได้ เพราะตนไม่ได้ทำธุรกิจแค่ตัวเดียว ถ้าเกิดเขาไปส่งหินส่งกรวดให้ลูกค้าแล้วเขาไม่พอใจแสดงว่าหน้าตนชื่อบริษัทตน ตนก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบ

เพราะการกระทำของเขาทำให้ตนเสียหายและบริษัทเสียหาย เพราะลูกค้าคนหนึ่งเราไม่ได้ขายแค่ครั้งเดียว แต่เรามีการขายกันอยู่ตลอด แต่เขามาทำแบบนี้ส่งสินค้าไม่มีคุณภาพให้ลูกค้าและแอบอ้างในนามของบริษัท ทำให้มูลค่าโอกาสทางธุรกิจของบริษัทเราก็เสียหายตรงนี้เหมือนกัน

ซึ่งอดีตพนักงานคนนี้เคยทำงานเป็นซุปเปอร์ไวเซอร์ หรือหัวหน้าฝ่ายขายของบริษัทเขาก็เลยรู้ข้อมูลของบริษัทเราทั้งหมด ทำงานอยู่กับบริษัทเรามา 5 ปี ก่อนที่จะลาออกไป ไปทำการขายเองโดยใช้ชื่อของบริษัทและแฮกฐานข้อมูลลูกค้าของบริษัทไปทำซ้อนสร้างความเสียหายให้แก่บริษัทตนเป็นอย่างมากจึงได้รวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ