ไอศกรีมเป็นของหวานอันโปรดปรานของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ แม้แต่คนรักสุขภาพหรือเหล่าดารานางแบบเอง บางครั้งก็อดใจไม่ไหวเอื้อมมือเข้าไปในช่องแช่แข็งหยิบไอศกรีมหวานเย็นออกมากิน ยิ่งในฤดูร้อนแล้ว การได้กินไอศกรีมเย็นชื่นใจช่างเป็นอะไรที่เหมือนกับขึ้นสวรรค์ สำหรับใครที่บอกว่า “อยากกินไอศกรีม แต่ไม่อยากอ้วน” ต้องห้ามพลาดบทความนี้ เพราะเราจะมาบอกเคล็ดลับการกินไอศกรีมไม่ให้อ้วนในแบบฉบับคนญี่ปุ่นกัน
เลือกไอศกรีมแบบไหนดี
ไอศกรีมที่มีขายในท้องตลาดแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทด้วยกันแล้วแต่สัดส่วนปริมาณไขมันจากนมที่ผสมอยู่ ยิ่งไขมันจากนมมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นไอศกรีมที่รสชาติเข้มข้นหวานมัน
สำหรับตัวที่ไขมันจากนมน้อยก็จะมีรสชาติเบาๆ กินแล้วสดชื่น สำหรับตัวที่มีส่วนผสมจากนมน้อยกว่า 3% จะไม่นับว่าเป็นไอศกรีม เป็นเพียงการนำน้ำผลไม้มาทำให้แข็งคล้ายๆ เชอร์เบตเท่านั้น
การเลือกไอศกรีมที่กินแล้วไม่อ้วนเท่าไหร่ ก็ควรดูที่มีสัดส่วนไขมันจากนมน้อยและมีน้ำตาลน้อย นอกจากนี้ ไอศกรีมที่มาพร้อมโคนหรือวาฟเฟิลจะให้แคลอรี่สูงขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ดีควรเลือกไอศกรีมที่อยู่ในถ้วย หรือถ้าชอบกินโคนจริงๆ ก็ให้เลือกสีอ่อนๆ บางๆ เข้าไว้
กินเวลาไหนดี
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการกินขนมหวานไม่ใช่เฉพาะไอศกรีมเท่านั้นก็คือช่วงบ่าย 2 ถึงบ่าย 3 เพราะเป็นช่วงเวลาที่ของที่กินเข้าไปจะเปลี่ยนเป็นไขมันได้ร่างกายได้ยากที่สุด ถือว่าเป็นเวลาทองสำหรับการกินขนมของคนลดน้ำหนัก ส่วนสิ่งที่ต้องระวังมากๆ ก็คือการกินไอศกรีมตอนกลางคืนนั่นเอง เพราะตอนกลางคืนเป็นช่วงเวลาที่ของกินจะเปลี่ยนเป็นไขมันได้ง่าย แต่ถ้าใครอดใจไม่ไหวจริงๆ แนะนำให้กินเป็นไอศกรีมไร้น้ำตาลหรือไม่มีแคลอรี่
กินอย่างไรดี
วิธีการกินก็สำคัญ ถ้าเราซื้อไอศกรีมถ้วยมาจากร้าน แนะนำให้เทใส่จานแล้วโรยถั่วหรือผลไม้หรือใบมิ้นต์ตกแต่งหน้า เพื่อให้ดูมีสีสันน่าทาน อีกอย่าง ควรเลือกไอศกรีมไซส์เล็กๆ เพื่อที่เราจะได้กินหมดในขณะที่ยังไม่ละลาย
อีกวิธีหนึ่งคือการกินผลไม้แช่แข็ง เช่น มะม่วง สับปะรด มิกซ์เบอร์รี่ ส้ม หรือโยเกิร์ตแช่แข็งแทนไอศกรีมค่ะ นอกจากจะได้รสหวานชื่นใจเหมือนกันแล้ว แคลอรี่ยังน้อยกว่ามาก
เพียงแค่เราเพิ่มการสังเกตสักเล็กน้อย เลือกกินอีกสักหน่อย ก็จะช่วยรักษาสุขภาพและหุ่นสวยๆ ของเราได้ โดยไม่ต้องอดไอศกรีมให้ทรมานจิตใจ ใครที่กำลังคุมน้ำหนักอยู่ อย่าลืมเอาเคล็ดลับนี้ไปใช้กันนะ