จากการที่ สภามวยโลก (WBC) ได้ออกมาประกาศแต่งตั้ง “เอล กัลโล่” ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า แชมป์โลก รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท 2 สถาบัน  (WBC และ WBA ซูเปอร์) ขึ้นเป็นแชมป์โลกแฟรนไชส์ของ WBC เพื่อให้สิทธิ์ในการรีแมตช์กับ “ช็อคโกลาติโต้” โรมัน กอนซาเลซ ยอดกำปั้นชาวนิการากัว อีกครั้ง

นอกจากนี้ยังได้เปิดโอกาสให้ “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น กำปั้นชาวไทย ได้ชิงแชมป์โลกที่ว่างลงกับ คาร์ลอส คูเอดราส กำปั้นชาวเม็กซิกัน ซึ่งการชกของทั้ง 4 คน จะถือเป็นการจัดทัวร์นาเมนต์ รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต ไปโดยปริยาย

ล่าสุด กำปั้นขวัญใจชาวไทย ได้เปิดใจกับ เดอะ ริง “THE RING” เว็ปไซต์ชื่อดังวงการมวยโลก เกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดที่ทาง สภามวยโลก ได้กำหนดเส้นทางต่างๆ ให้กับเจ้าตัว

“ผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมของ WBC ในการจัดทัวร์นาเมนต์ รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต” เจ้าแหลม เผยกับ เดอะ ริง ผ่าน แบงค์-เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ โปรโมเตอร์ของค่ายนครหลวงโปรโมชั่น

“ผมจะสู้กับ คาร์ลอส คูเอดราส เพื่อตำแหน่งแชมป์โลก WBC และถ้าผมเอาชนะเขาได้ ผมก็จะได้สิทธิ์สู้กับผู้ชนะระหว่าง ฮวน เอสตราด้า กับ โรมัน กอนซาเลซ ในภาค 3 ผมคิดว่ามันดีสำหรับทุกฝ่าย”

“ถือเป็นเกียรติเสมอสำหรับผมในการได้ชิงตำแหน่งแชมป์โลก ซึ่งถ้าผมชนะไฟต์นี้ผมจะสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักมวยไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ WBC สามสมัย มันถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับผม และประเทศของผม ผมอยากขอบคุณ เมาริซิโอ สุไลมาน และคณะกรรมการของสภามวยโลก ที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น” กำปั้นชาวไทย กล่าว

นอกจากนี้ นักชกชาวไทยวัย 34 ปี ยังเปิดใจถึงการรีแมตช์กับ คาร์ลอส คูเอดราส กำปั้นชาวเม็กซิกัน หลังเคยเจอกันเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2014 ซึ่งครั้งนั้นเกิดอุบัติเหตุหัวชนกันต้องยุติการชกในยกที่ 8 ก่อนรวมคะแนน และทำให้เข็มขัดแชมป์หลุดจากเอวของ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น

“นี่คือการแข่งขันที่ผมต้องใช้เวลารอคอยถึง 7 ปี ตั้งแต่ผมเข้าสังกัดของ นครหลวงโปรโมชั่น (NKL) เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ผมเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ทุกคน ยกเว้นคนเดียวก็คือ คาร์ลอส คูเอดราส ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้มันสำคัญมากสำหรับผม ผมจะมุ่งมั่นฝึกซ้อมให้หนักเพื่อที่จะมั่นใจได้ว่าจะเป็นผู้ชนะในการเจอกันไฟต์นี้”

สำหรับไฟต์การชก ทัวร์นาเมนต์ รุ่นซูเปอร์ฟลายเวต ของสภามวยโลก (WBC) ยังไม่ได้กำหนดวัน และสถานที่ชกอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าน่าจะจัดในช่วงเดือนมิถุนายน หรือไม่ก็เดือนกันยายน ซึ่งผู้ชนะของไฟต์แรกจะโคจรมาเจอกันอีกครั้งในช่วงต้นปี 2021