วันที่ 14 ม.ค.บีบีซีรายงานว่า กองทัพรัสเซียออกแถลงการณ์แจ้งว่า สามารถยึดเมืองโซเลดาร์ แหล่งเหมืองเกลือของประเทศยูเครนได้แล้ว หนึ่งในสมรภูมินองเลือดแห่งหนึ่งในสงครามยูเครน เมื่อวันทีศุกร์ที่ 13 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากรบมาอย่างยาวนาน และยกย่องว่าเป็นก้าวสำคัญในการโจมตี แต่เจ้าหน้าที่ยูเครนระบุว่า การสู้รบสำหรับเมืองโซเลดาร์ยังดำเนินต่อไปและกล่าวหารัสเซียว่า บิดเบือนข้อมูลข่าวสาร

ภาพถ่ายดาวเทียม แสดงอพาร์ตเมนต์และบ้านเรือนในเมืองโซเลดาร์เมื่อเดือนส.ค.ปี 2565 (รอยเตอร์)

แถลงการณ์กระทรวงกลาโหมระบุอีกว่า ชัยชนะดังกล่าวจะทำให้กองกำลังทหารรัสเซียรีบเดินหน้าโจมตีเมืองบักห์มุต เมืองใกล้เคียง และป้องกันการตอบโต้จากกองกำลังทหารยูเครน นับเป็นแถลงการณ์ของรัสเซียที่แสดงถึงความมั่นใจและทะเยอทะยานอย่างมาก

เมื่อเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆ ถือว่าเมืองโซเลดาร์เป็นเมืองขนาดเล็ก ด้วยจำนวนประชากรก่อนเกิดสงครามเพียง 10,000 คนและความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของเมืองแห่งนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน แต่หากได้รับการยืนยันว่ากองกำลังรัสเซียควบคุมเมืองนี้ได้จริง อาจถือเป็นความโล่งใจครั้งใหญ่ของรัสเซีย

ภาพดาวเทียมแสดงโรงเรียนและตึกถูกทำลายในเมืองโซเลดาร์ เมื่อ 10 ม.ค. 2566 (รอยเตอร์)

ด้านนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครนกล่าวเมื่อคืนวันที่ 13 ม.ค.ว่า การสู้รบในแคว้นโดเนสต์โอบลาสต์ยังคงรุนแรงต่อไป แต่เลี่ยงที่จะเอ่ยถึงข้อกล่าวอ้างของรัสเซียเกี่ยวกับการเข้ายึดเมืองโซเลดาร์ได้สำเร็จ หลังจากก่อนหน้านี้ นายเซเลนสกี้กล่าวถึงสภาพเมืองโซเลดาร์ ว่าแทบไม่มีผนัง กำแพงใดๆในเมืองโซเลดาร์หลงเหลืออยู่ เกือบจะถูกทำลายล้างทั้งเมือง คล้ายวันสิ้นโลก

นายอังดรีย์ เยอร์มัก หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดีของยูเครนเปรียบเทียบการต่อสู้ในเมืองโซเลดาร์และเมืองบักห์มุตว่า เทียบเท่าสมรภูมิแวร์เดิง หนึ่งในสมรภูมิที่รุนแรงดุเดือดที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 1 และนายพาฟโล คีรีเลนโก ผู้ว่าการแคว้นโดเนสต์โอบลาสต์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ในเมืองโซเลดาร์มีพลเรือน 559 คนรวมถึงเด็ก 15 คนและไม่สามารถถูกอพยพเคลื่อนย้ายออกมาได้

สถาบันสงครามศึกษา คลังสมองสถาบันในสหรัฐระบุก่อนหน้านี้ว่า ขณะที่มีแนวโน้มว่ากองกำลังรัสเซียยึดเมืองโซเลดาร์ได้ แต่ไม่เชื่อว่า จะสามารถเข้าล้อมยึดเมืองบักห์มุตได้ต่อ และว่าการยึดครองโซเลดาร์เป็นความต้องการของนายวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เนื่องจากตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2565 กองทัพรัสเซียไม่สามารถยึดเมืองในยูเครนได้เลยแม้แต่เมืองเดียว รัสเซียทุกข์ทนต่อความอับอายจากการพ่ายแพ้ในหลายสมรูภูมิ ชัยชนะครั้งนี้ ฝ่ายรัสเซียจึงถือเป็นการนำข่าวดีมาสู่ประชาชนรวมถึงกองกำลังรัสเซียที่อยู่แนวหน้า

ภาพแฟ้ม -สหรัฐประกาศแซงก์ชั่นนายเยฟเกนี ปริโกชิน มหาเศรษฐีและคนสนิทนายวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เมื่อ 3 มี.ค.2565 (รอยเตอร์)

เจ้าหน้าที่จากชาติตะวันตกและยูเครนระบุว่า การสู้รบจำนวนมากในสองเมืองนี้เกิดจากทหารรับจ้างของบริษัทแวกเนอร์ ซึ่งขึ้นชื่ออื้อฉาวว่า โหดร้าย

อีกทั้งยังมีความขัดแย้งในการรับความดีความชอบระหว่างกองทัพรัสเซียและบริษัททหารรับจ้าง ซึ่งนายเยฟเกนี ปริโกชิน หัวหน้าบริษัททหารรับจ้างระบุว่า กองกำลังจากบริษัทตนเป็นเพียงหน่วยเดียวที่รบในเมืองโซเลดาร์

แต่ต่อมาในแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ได้เอ่ยถึงทหารจากบริษัทแวกซ์เนอร์ เพียงระบุว่า ทหารพลร่มของกองทัพเป็นส่วนสำคัญในการยึดเมืองนี้ ต่อมานายปริโกชินแถลงตอบโต้แสดงความแปลกใจต่อแถลงการณ์ และแย้งว่า ไม่มีทหารพลร่มแม้แต่คนเดียวในสนามรบนี้ ทั้งยืนยันและเตือนว่า อย่าดูหมิ่นนักรบจากบริษัทตน รวมถึงขโมยความสำเร็จของคนอื่น
………….