วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 พ.ต.ท.อำนาจ พรมสาลี สว.(สอบสวน) สภ.บ้านผือ ได้รับแจ้งเหตุ มีคนจมน้ำเสียชีวิต ที่ลำห้วยโมง บ้านจำปาโมง หมู่ 1 ต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี จึงพร้อมด้วย แพทย์เวร รพ.บ้านผือ กู้ชีพ อบต.จำปาโมง รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเป็นลำห้วยกว้าง 10 เมตร น้ำไหลเชี่ยวเพราะมีฝนในพื้นที่ พบชาวบ้านนำศพนายสิงห์ไทย อายุ 48 ปี ขึ้นจากลำห้วยมาไว้บนฝั่ง สภาพสวมกางเกงบ๊อกเซอร์สีครีมตัวเดียว ห่างไปประมาณ 300 เมตร พบรองเท้าแตะของผู้ตายและเศษขนมวางอยู่ริมฝั่ง จากการชันสูตรตามร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำ มามากกว่า 12 ชม.
น.ส.สมหญิง อายุ 22 ปี ผู้พบศพเล่าว่า ตนมีบ้านอยู่ริมห้วยโมง ช่วงนี้ฝนตกชุกทำให้น้ำในลำห้วยมีมาก บ่ายวันนี้ขณะตนกำลังนั่งเล่นอยู่หลังบ้านติดลำห้วย ก็พบศพผู้ตายลอยมาตามน้ำ จึงได้แจ้งตำรวจ
ส่วนนางภัทราวดี อายุ 48 ปี ภรรยาของผู้ตาย รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ พอเห็นศพสามีก็ถึงกับเป็นลม ชาวบ้านได้ช่วยกันปฐมพยาบาลจนพื้น
ซึ่งนางภัทราวดี ให้การว่า ผู้ตายชอบมานอนอยู่ที่เถียงนา ซึ่งอยู่ติดกับลำห้วยโมง แต่อยู่คนละฝั่งกับบ้าน ก่อนเกิดเหตุค่ำวานนี้ ตนได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้ตายบอกว่าวันนี้ไม่กลับบ้าน จะนอนอยู่ที่เถียงนา พอตื่นเช้าก็ได้ไปหาผู้ตายที่เถียงนา เพราะผู้ตายป่วยเป็นโรคหัวใจ และจะมีอาการวูบเป็นประจำ แต่ไม่พบ คิดว่าผู้ตายออกไปที่ทุ่งนาแล้ว จึงได้กลับบ้าน
นางภัทราวดี เล่าต่อว่า สายวันเดียวกัน ตนได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.บ้านผือ เพื่อไปให้ปากคำหลังจากถูกแก๊งคอเซ็นเตอร์หลอกให้ลงทุน โดยโอนเงินไปครั้งละ 6,000-20,000 บาท ตั้งแต่วันที่ 14-17 มิถุนายน จนเงินหมดบัญชี รวมเป็นเงิน 200,000
พอรู้ว่าโดนหลอกจึงไปแจ้งความ แต่ไม่ได้เล่าเรื่องโดนหลอกให้ผู้ตายฟัง และตำรวจได้เรียกไปสอบปากคำวันนี้ เสร็จแล้วตนเดินจากโรงพักจะกลับบ้าน ก็มีญาติโทรมาบอกว่าสามีจมน้ำเสียชีวิต ทำให้ตนจุกอกทำอะไรไม่ถูก ถึงกับเข่าอ่อนและเป็นลม
ตำรวจสันนิษฐานว่า เมื่อคืนนี้ผู้ตายได้ลงไปอาบน้ำในลำห้วย แต่โรคประจำตัวกำเริบ มีอาการวูบทำให้จมน้ำ และไม่มีคนเห็นและช่วยเหลือ จึงเสียชีวิต และลอยไปตามลำห้วย ญาติไม่ติดใจ จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
และได้ประสานเจ้าหน้าที่ พมจ.อุดรธานี เข้าดูแลสภาพจิตใจนางภัทราวดี หลังสูญเสียเงินจำนวนมาก และสามีมาเสียชีวิต เกรงว่าจะคิดสั้น