ความยั่งยืนได้กลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการบริการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจการบริการที่แค่ลดขยะ ใช้แนวทางปฏิบัติด้านการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ อนุรักษ์พลังงานและน้ำไม่เพียงพออีกต่อไป แต่จำเป็นต้องมี KPI ด้านนี้อย่างชัดเจน ธุรกิจต่างสนับสนุนการผลิตเทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน และที่สำคัญที่สุดคือสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

แต่นวัตกรรมไม่เพียงแต่มาจากโลกธุรกิจเท่านั้น แต่ยังมาจากจิตสำนึกของผู้มีพรสวรรค์ด้านการบริการในอนาคตของโลกอีกด้วย นั่นคือเหล่าเยาวชนนักศึกษาที่เข้าร่วมการแข่งขัน Sustainable Hospitality Challenge ซึ่งจัดขึ้นโดย Hotelschool The Hague โรงเรียนด้านการบริการชั้นนำแห่งหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นการแข่งขันระดับโลกที่นำนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาด้านการบริการชั้นนำของโลกมารวมตัวกัน เพื่อคิดค้นและนำเสนอแนวทางการเพิ่มมูลค่าด้านการต้อนรับที่ยั่งยืน

เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้จัดการแข่งขันได้เลือกวิทยาลัยดุสิตธานี กรุงเทพฯ และโรงแรม ASAI Chinatown ในเครือ Dusit International เป็นเจ้าภาพการแข่งขันรอบรองชนะเลิศระดับเอเชียและแอฟริกาของการแข่งขัน Sustainable Hospitality Challenge 2024 มีนักศึกษาสาขาการบริการมากกว่า 70 คนจากโรงเรียนการบริการที่ดีที่สุดในเอเชียและแอฟริกามาแข่งขันและพิสูจน์ว่า ผลิตภัณฑ์ของตนจะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อความยั่งยืนได้ โดยมีการนำเสนอที่น่าสนใจ 13 แนวคิดจาก 13 ทีมที่มีแนวโน้มว่าจะสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ภายใต้การตัดสินโดยคณะผู้เชี่ยวชาญจากอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามมีเพียง 2 ทีมเท่านั้นที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ

หนึ่งในผู้เข้ารอบชิงชนะเลิศคือทีมจากวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกและใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่อุทิศให้กับการศึกษาและการฝึกอบรมด้านการบริการโดยเฉพาะในเครือโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งได้รับรางวัลจากแนวคิดที่แปลกใหม่เกี่ยวกับระบบกรองน้ำแบบอินทรีย์ที่เรียกว่า “ธารา (Thara)” ออกแบบและสร้างสรรค์โดยนักศึกษาสาขาวิชาศิลปะการประกอบอาหารอย่างมืออาชีพ (หลักสูตรนานาชาติ) วิทยาลัยดุสิตธานี จำนวน 3 คน ได้แก่ นายศุภกร จัง นายชอน อะเจย์ แมททิว และ นางสาวจิรดา กล้วยไม้งาม ผลิตภัณฑ์นี้มาจากแนวคิดการใช้พืชเพื่อดูดซับสิ่งตกค้างจากน้ำเสียเพื่อนำกลับมาใช้อุปโภคอีกครั้ง ต้นแบบของระบบนี้แสดงให้เห็นว่า น้ำจะไหลผ่านผนังสีเขียวแนวตั้งไปยังกล่องฆ่าเชื้อก่อนไปที่ก๊อกน้ำ อันจะช่วยลดการใช้พลังงานและการสิ้นเปลืองน้ำ นอกจากนี้พวกเขายังได้ทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อดูคุณภาพของน้ำซึ่งแสดงให้เห็นประสิทธิภาพถึง 75%

“การสนับสนุนและคำแนะนำที่เราได้รับจากอาจารย์ผู้สอนและผู้คนที่น่ารักรอบตัวเรานั้นยิ่งใหญ่มาก และเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมเราถึงผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ เวลาที่เราใช้ไปกับการทำงานในโครงการนี้เหนื่อยแต่ก็คุ้มค่า เรารู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อความท้าทายที่เราเผชิญ เนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้เปิดประตูสู่โอกาสอันไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับเรา ไม่ว่าผลการแข่งขันในรอบสุดท้ายจะเป็นเช่นไร เราก็ภูมิใจที่ได้มาไกลขนาดนี้ เพราะการได้รับประสบการณ์ที่หายากนี้เป็นรางวัลอันล้ำค่าสำหรับการอุทิศตนของพวกเราแล้ว” นักศึกษาจากทีมชนะเลิศวิทยาลัยดุสิตธานีกล่าว

รอบสุดท้ายของ Sustainable Hospitality Challenge จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนถึง 2 ตุลาคม 2024 ที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยเป็นส่วนหนึ่งของ Future Hospitality Summit ทีมจากวิทยาลัยดุสิตธานีจะเป็นตัวแทนสถาบันเพียงหนึ่งเดียวของไทยในการแข่งขันระดับโลกนี้

วิทยาลัยดุสิตธานีมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแนวปฏิบัติที่ยั่งยืน ตามหลักการของโครงการ “Tree of Life” ที่ริเริ่มโดย Dusit International ซึ่งเป็นองค์กรแม่ วิทยาลัยดุสิตธานีและทุกหน่วยธุรกิจของดุสิตฯ จึงกำลังดำเนินการเพื่อสร้างความยั่งยืนให้อนาคตอุตสาหกรรมการบริการในประเทศไทยและในระดับนานาชาติ แนวคิดด้านความยั่งยืนนี้ถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรภาษาไทยและนานาชาติทุกหลักสูตรของวิทยาลัย โดยหลักสูตรนานาชาติด้านการจัดการการบริการและศิลปะการประกอบอาหารของวิทยาลัยมีคลัสเตอร์ Innovation for a Sustainable Future ซึ่งนักศึกษาทุกคนจะมีส่วนร่วมในการสำรวจและคิดค้นแนวปฏิบัติที่ยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมบริการต่อไป

(ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรภาษาไทยและนานาชาติของวิทยาลัยดุสิตธานี คลิก https://dtc.ac.th/en/bachelors-degree/)

[Advertorial]