เก๋งชนสองแถวตาย 1 เจ็บ 12 เป็นเดือนคดีไม่คืบ ยังหาตัวคนผิดไม่ได้ เหยื่อยังนอนติดเตียง อีกคนแท้งลูกแฝด 3  

นางสาวเกศรา อายุ 40 ปี ได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมเพื่อขอให้เร่งรัดคดีของน้องสาว คือ นางสาวเกศรินทร์ อายุ 36 ปี ซึ่งกลายเป็นผู้ป่วยติดเตีย งจากอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนรถโดยสารสองแถวที่เธอโดยสาร จนได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกรายคือ นางศิริกาญจน์ อายุ 40 ปี ซึ่งอยู่ในสภาพเข้าเฝือกทั้งร่าง

ทั้งสองรายเป็น 2 ใน 12 รายที่ประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 หลังจากเกิดเหตุรถยนต์เก๋งสีดำทะเบียน กฉ-6848 พัทลุง พุ่งชนท้ายรถโดยสาร 2 แถวจนพลิกคว่ำทำให้ผู้โดยสารบาดเจ็บหนักถึง 12 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุอีก 1 ราย แล้วได้หลบหนี เหตุเกิดบนถนนสายลานสกา-ช้างกลาง ตำบลเขาแก้ว อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช แม้ผ่านมาแล้ว 1 เดือนแต่ทั้งคู่ยังอยู่ในสภาพเจ็บหนักต้องกลับรักษาตัวที่บ้านเนื่องจากโรงพยาบาลมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19

นางสาวเกศรินทร์ อายุ 36 ปี เธอเปิดร้านดอกไม้ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุครั้งนั้น ซี่โครงด้านขวาหักหมดทั้งแถบ ปอดทะลุ ภายในบอบช้ำอย่างรุนแรง แขนหัก ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงมารดาและพี่สาวต้องดูแล ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงว่าขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานให้รวดเร็วกว่านี้ ไม่ควรล่าช้าต่างคนต่างมีภาระผู้บาดเจ็บลำบาก ไม่ใช่ว่าไม่ได้ทำอะไรให้เลยต้องรับฟังเหตุผลผู้บาดเจ็บ ขอเรียกร้องให้ช่วยทำคดีให้เร็วกว่านี้ นี่เดือนกว่าแล้วเกรงว่าจะหมดอายุความ

ส่วนผู้บาดเจ็บอีกรายซึ่งดูจะได้รับผลกระทบกับชีวิตอย่างหนัก คือนางศิริกาญจน์ อายุ 40 ปี เธอตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกันได้รับบาดเจ็บซี่โครงร้าว แขนหัก ต้องเข้าเฝือกลำตัว แต่ที่หนักหนาสาหัสคือเธอกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน เป็นครรภ์ที่มีลูกแฝดถึง 3 คนที่สร้างความดีใจให้กับครอบครัวอย่างมาก แต่ต้องแท้งสูญเสียลูกทั้ง 3 คนจากแรงกระทบกระเทือนครั้งนี้ ได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมขอให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดติดตามตัวผู้ขับขี่รถมาดำเนินคดี และชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายทั้ง 12 ราย และผู้เสียชีวิตอีก 1 รายที่ต้องประสบชะตากรรมอย่างไม่คาดฝัน

นางศิริกาญจน์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งเพียงว่าการติดตามรถยนต์คู่กรณีนั้นพบเจ้าของแล้วแต่กลับพบว่ารถคันนี้เป็นรถที่ถูกขายในวงการรถเถื่อน ทำนองผู้ครอบครองเช่าซื้อตัวจริงนั้นได้นำรถไปขายเถื่อนหรือจำนำเถื่อน หลังจากนั้นรถได้เปลี่ยนมือไปเรื่อยๆจนไม่รู้ว่าไปอยู่ในความครอบครองของใคร ทราบว่าทางบริษัทไฟแนนซ์ที่ให้เช่าซื้อได้ฟ้องรองดำเนินคดีกับผู้เช่าซื้อแล้ว ส่วนตำรวจได้ติดตามตัวผู้ครอบครองรถคนสุดท้ายได้มาพบเจ้าหน้าที่แล้ว และได้แจ้งว่าได้ขายรถไปแล้วไม่รู้ว่าผู้ซื้อเป็นใครจำไม่ได้ ตำรวจก็ได้ปล่อยตัวไปโดยไม่ได้ทำอะไร

ส่วนนางสาวเกศรา พี่สาวของนางสาวเกศรินทร์ เปิดเผยว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามผู้ที่ต้องรับผิดชอบมาดำเนินการ ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยเช่นนี้ ไม่เดือดร้อนอะไรเลยผู้บาดเจ็บมีตั้งเยอะ สงสารคนที่ต้องรับภาระเขาบ้าง พอไปถามไม่ได้อะไรกลับมาเพียงแค่บอกว่าต้องติดต่อประกันอย่างเดียว แล้วการติดต่อประกันเราชาวบ้านธรรมดาเขาไม่อะไรให้หรอก นอกจากเจ้าหน้าที่ทำอะไรให้ ขนาดป้ายทะเบียนรถหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุยังทำอะไรไม่ได้ แล้วคนธรรมดาอย่างเราจะทำอะไรได้

เธอยังกล่าวภายหลังอีกว่าได้คุยกับผู้ครอบครองรถคนสุดท้ายก่อนที่จะเกิดเหตุเขาบอกว่าไม่กล้าบอกว่าคนที่นำรถไปคือใคร หากบอกไปตำรวจจะช่วยปกป้องชีวิตเขาได้หรือไม่ ดังนั้นเรื่องนี้จึงต้องเป็นคนที่มีอิทธิพลพอสมควรที่ทำให้ตำรวจไม่สามารถสาวไปถึงตัว แม้คนครอบครองคนสุดท้ายมาแล้วยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้