ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
คืนวันพุธที่ 20 ตุลาคม 2021
เชลซี 4-0 มัลโม
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
1. มัลโม ยังห่างชั้นกับเพื่อนร่วมกลุ่มเกมนี้ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าตลอด 90 นาที เชลซี เป็นฝ่ายที่ควบคุมทุกอย่างเอาไว้ได้ในกำมือทั้งหมดชนิดที่ทีมเยือนยังตั้งเกมของตัวเองไม่ได้เลย โดยเจ้าถิ่นครองบอลบุกเข้าใส่ตั้งแต่เริ่มจนจบเกมซึ่งมีอัตราการครองบอลอยู่ที่ 72 ต่อ 28 เลยทีเดียว
แถมโอกาสเข้าทำยังมีร่วม 20 ครั้งเปลี่ยนเป็น 4 ประตูในเกมนี้ ขณะที่ มัลโม ได้โอกาสยิงไม่เกิน 3 ครั้งตลอดทั้งเกม นี่จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมพวกเขาถึงยังไม่มีเลยแม้แต่คะแนนเดียวตลอด 3 เกมที่ผ่านมา ยิงไม่ได้เลยซักลูกแถมเสียไปถึง 11 ประตูด้วยกัน
2. ชัยชนะที่แลกมากับการบาดเจ็บของ 2 หัวหอกตัวเก่งแม้วันนี้ เชลซี จะคว้า 3 คะแนนมาครองได้แบบสบาย ๆ แต่นั่นก็ต้องแลกมากับการที่พวกเขาจะเสีย 2 หัวหอกอย่าง โลเมลู ลูกากู ที่บาดเจ็บจากการโดนเข้าสะกัดอย่างหนักแต่ยังดีที่จังหวะนั้นเป็นลูกจุดโทษให้ทีมได้ประตูที่สองในช่วงต้นเกมไป
ขณะที่อีกรายคือ ติโม แวร์เนอร์ ที่บาดเจ็บบริเวณต้นขาในช่วงก่อนหมดครึ่งแรก ซึ่งน่าเสียดายแทนเจ้าตัวเพราะกำลังเริ่มจะได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองมากขึ้นกว่าช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ เรายังไม่ทราบอาการที่แน่ชัดรวมถึงระยะเวลาพักฟื้นที่แน่นอน ซึ่งบางทีหากทั้งคู่โชคร้ายต้องพักยาวไม่แน่ว่า 3 คะแนนในเกมนี้อาจจะไม่คุ้มค่ากับสิ่งที่ต้องแลกไปก็เป็นได้
3. ซาอูล ยังต้องปรับตัวอีกมากเกมนี้กองกลางดีกรีแชมป์ลาลีกาเมื่อฤดูกาลก่อนอย่าง ซาอูล นิเกวซ ที่ยืมตัวมาจาก แอตเลติโก มาดริด ได้รับโอกาสลงสัมผัสเกมหลังจากหายไปนานในฐานะตัวสำรอง ซึ่งช่วงนั้นเกมค่อนข้างขาดไปแล้ว แต่ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนหลังจากที่ เอ็นโกโล ก็องเต้ ออกจากสนามและแทนที่ด้วย ซาอูล คือมิติในเกมรุกของ เชลซี ดูลดความอันตรายลงไปอย่างชัดเจน
นั่นอาจเป็นเพราะตัวนักเตะเองไม่ใช่ตัวรุกธรรมชาติแต่หากมองไปที่ ก็องเต้ ที่ตำแหน่งแท้จริงคือตัวรับแต่กลับทำได้ดีสร้างความหวือหวาได้มากกว่า
ในขณะที่ ซาอูล ทำได้แค่เพียงถ่ายบอลไปมา และยังมีจังหวะพลาดให้เห็น นั่นจึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไม ทูเคิล ยังไม่รีบดึงดันใช้งานมิดฟิลด์หน้าใหม่รายนี้ เพราะดูเหมือนว่าเจ้าตัวยังต้องปรับสไตล์การเล่นอีกพอสมควร แต่เชื่อได้เลยว่าเมื่อเขาพร้อมจริง ๆ ซาอูล จะเป็นนักเตะอีกคนหนึ่งที่มีบทบาทในการช่วยยกระดับทีมได้อย่างแน่นอน