ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก 2020/21
รอบรองชนะเลิศ เลกที่ 2
คืนวันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม 2021
อาร์เซนอล 0-0 บียาร์เรอัล
(บียาร์เรอัล ผ่านเข้ารอบชิงฯ ด้วยประตูรวม 2-1)
สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน : สลาฟโก้ วินชิช (สโลวีเนีย)
1. ความกระตือรือล้นของ อาร์เซนอล
อาร์เซนอล ต้องการเพียงแค่ 1 ประตูเพื่อจะหักด่าน บียาร์เรอัล เข้าไปเล่นในนัดชิงชนะเลิศเมื่อพวกเขาสามารถเก็บอเวย์โกลมาได้ในเกมเลกแรกแต่นอกจาก เอมิล สมิธ โรว์ และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี (ที่ถูกส่งเป็นตัวสำรองในครึ่งหลัง) แล้วก็ไม่มีผู้เล่นคนใดของทีมที่ดูเหมือนจะกระตือรือล้นให้เห็นในเกมนี้เลย
ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือนอกจากการยิงชนเสา 2 ครั้งของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง พวกเขายิงตรงกรอบเพียง 1 ครั้งจากความพยายามทั้งหมด 14 ครั้งในเกมนี้
2. บูคาโย ซาก้า หายตัว ให้หลังจากสถานะ เดอะแบก ของ บูคาโย ซาก้า หลายครั้งที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นในฤดูกาลนี้ทว่าเกมที่ เอมิเรตส์ กับ บียาร์เรอัล กลายเป็นวันที่ ซาก้า ไม่สามารถงัดผลงานอย่างที่เคยทำให้เห็นได้
มีเพียง มาร์ติน โอเดการ์ด (42 ครั้ง) กับ ปิแอร์-เอเมอริค โบาเมยอง (14) เท่านั้นที่เป็นผู้เล่นเอาท์ฟิลด์ของ ไอ้ปืนใหญ่ ที่สัมผัสบอลน้อยกว่า บูคาโย ซาก้า
3. ดับฝันทัวร์นาเมนต์ยุโรปผลจากการพ่ายแพ้ในเกมนี้ของ อาร์เซนอล ทำให้พวกเขาหมดลุ้นคว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าจากการคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปาลีก ซีซันนี้เป็นที่เรียบร้อย
ขณะที่ในทางทฤษฎีแม้จะยังมีลุ้นในการทำอันดับบนตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก ที่ตามหลัง เชลซี ในอันดับที่ 4 อยู่ 12 คะแนนและ เวสต์แฮม ในอันดับที่ 5 อยู่ 9 แต้มหลังผ่านการแข่งขัน 34 นัด
แต่ในทางปฎิบัติมันแทบจะเป็นการปิดประตูตายจากผลงานที่พวกเขาแสดงให้เห็นในเวลานี้และจะเป็นฤดูกาลแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1995/96 ที่พวกเขาไม่สามารถเข้าไปเล่นในรายการยุโรปได้