เกินมนุษย์! ชายวัย 38 ปี หลอกเด็ก 13 ปี กักขังมีเพศสัมพันธ์นาน 3 วัน แถมข่มขู่ครอบครัว

Home » เกินมนุษย์! ชายวัย 38 ปี หลอกเด็ก 13 ปี กักขังมีเพศสัมพันธ์นาน 3 วัน แถมข่มขู่ครอบครัว
เกินมนุษย์! ชายวัย 38 ปี หลอกเด็ก 13 ปี กักขังมีเพศสัมพันธ์นาน 3 วัน แถมข่มขู่ครอบครัว

วันที่ 3 ก.ย. 66 ที่ สภ.บางศรีเมือง ต.บางกร่าง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นางอาชาบี อายุ 38 ปี สัญชาติพม่า เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง

ว่าเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 66 ที่ผ่านมา ด.ญ.บีดา ลูกสาววัย 12 ขวบ ถูกนายโสนัย สัญชาติพม่า อายุ 38 ปี หลอกล่อให้ลูกสาวไปขึ้นรถแท็กซี่บริเวณตลาดท่าอิฐ ให้ไปหา และนายโสนัย ได้พา ด.ญ.บีดา ไปที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งโดยกักขังตัวไว้ และกระทำชำเรา ใช้อาวุธมีดข่มขู่ฆ่าไม่ให้กลับบ้านเป็นเวลา 3 วัน

ก่อนจะให้เพื่อนขับรถมาส่ง ด.ญ.บีดา ที่บ้าน และโทรมาขู่กับพ่อแม่ของ ด.ญ.บีดา จนถึงปัจจุบัน ไม่ให้แจ้งความ  หลังจากเกิดเหตุทนายโป้งได้พาครอบครัวของด.ญ.บีดา เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บางศรีเมือง

จากการสอบถาม ด.ญ.บีดา เล่าว่า นายโสนัยได้ให้ตนขึ้นรถแท็กซี่ไปหา เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 66 เวลาประมาณ 18.00 น. โดยให้ขึ้นรถไปหาแถววัดประชาระบือธรรม เขตดุสิต พอไปถึงได้เจอนายโสนัย เขาพาตนขึ้นห้อง ที่ห้องไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย ตนโดนกักขังไว้ อยู่โดยไม่ได้กินข้าวเป็นเวลาทั้งหมด 3 วัน

หลังจากนั้นนายโสนัยได้ติดต่อพี่สาวตนว่าให้จัดงานแต่งงานให้ตนและนายโสนัย เพราะตอนที่ตนไปอยู่กับนายโสนัยเขาข่มขู่โดยใช้มีดจี้ และตนมีเพศสัมพันธ์กัน หลังจากนั้นวันที่ 9 ส.ค. 66 เพื่อนนายโสนัยได้ขับรถพาตนมาส่งที่บ้าน และโทรมาข่มขู่เรื่อยๆว่าจะไม่ให้ครอบครัวของตนทำงานที่ประเทศไทย และจะส่งกลับประเทศพม่า ที่เขาข่มขู่เพราะเขาต้องการตัวของตน

ตนจึงเข้ามาแจ้งความกับแม่ แต่นายโสนัยได้โทรมาขู่เรื่อยๆ ทำให้แม่ไม่กล้าออกไปขายของ ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทางครอบครัวยินยอมที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับนายโสนัยให้ถึงที่สุด

จากการสอบถามนางอาชาบี แม่ของ ด.ญ.บีดา เล่าว่า นายโสนัยจะไม่ให้ลูกสาวตนคืนและจะไม่ให้ตนมาอยู่หรือทำมาหากินที่ประเทศไทย หลังจากแจ้งความไปแล้ว ช่วงวันที่ 31 ส.ค. – 2 ก.ย. ก็ยังโทรมาขู่ โทรมาแจ้งว่าจะให้คนอื่นมาจับ ถ้าไม่คืนลูกสาวให้นายโสนัย จะนำตำรวจมาจับและส่งกลับบ้าน

ขู่ว่าที่ตรงนี้เป็นที่ของเขาตนก็รู้สึกกลัว กลัวทั้งโดนทำร้ายและกลัวพาลูกสาวหนี ไม่มีใครดูแลเพราะที่นี่ตนไม่รู้จักใครเลย ไม่มีใครช่วยได้ ตอนนี้ไม่รู้จะทำยังไงใครจะมาทำอะไรก็ให้ทำเลย แจ้งความมาแล้ว 2 ครั้งยังโดนขู่เหมือนเดิม อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตอนนี้ผู้ต้องหาก็ยังจับไม่ได้ ตนกลัวจนไม่กล้าไปทำงาน ไม่กล้าออกจากบ้านกลัวถูกทำร้าย

ทางด้านทนายโป้ง กล่าวว่า มีคุณแม่ท่านหนึ่งมาร้องเรียนว่าลูกสาวถูกหลอกไปตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค. 66 และถูกส่งตัวกลับในวันที่ 9 ส.ค. 66 ทางแม่เด็กได้เข้ามาแจ้งความแต่พูดภาษาไทยไม่ได้จึงกลับไป หลังจากนั้นจึงมีคนไทยพาเข้ามาแจ้งความวันที่ 12 ส.ค. 66 แต่ก็ยังแจ้งความได้ไม่ครบถ้วนเพราะน้องยังเป็นเด็ก ต้องไปสอบปากคำกับสหวิชาชีพ จึงต้องใช้เวลา

แต่ขณะที่ครอบครัวน้องกำลังเดินทางกลับบ้านหลังแจ้งความแล้ว ทางนายโสนัยได้โทรเข้ามาทางแม่ มาข่มขู่ถ้าไม่ยอมเอาลูกสาวกลับไปให้ จะไม่ให้ขายของต่อ เนื่องจากแม่ของน้องเป็นต่างด้าว แม่จึงกลัว หลังจากนั้นแม่น้องได้มาพบตนอีกครั้งวันที่ 19 ส.ค. 66 ตนจึงพามาหาพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี

แต่ก็ยังไม่คืบหน้าเพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถสอบปากคำเด็กได้ และผลตรวจของน้องยังไม่ออก แต่ตนคิดว่าผลออกนานเกินไป ทำให้ตอนนี้คดีไม่มีความคืบหน้า ตนจึงประสานงานมาเรื่อยๆ

แต่เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 66 ถึงวันที่ 3 ก.ย. 66 ทางนายโสนัย ยังคงโทรมาข่มขู่แม่น้องตลอด ขู่เหมือนเดิม วันนี้ตนได้มาที่ สภ.บางศรีเมือง เพื่อติดตามคดีเรื่องข้อหาพากผู้เยาว์ ข้อหาอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และติดตามเรื่องการข่มขู่ เพราะนายโสนัยโทรมาตลอด

ตนจะให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบว่าเบอร์ที่โทรติดต่อเข้ามาอยู่ที่ไหน เพื่อตรวจสอบที่ตั้งและจะให้ทางพนักงานสอบสวนเร่งรัดดำเนินคดีต่อไป ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับแล้วแต่ยังไม่ทราบว่าเป็นหมายจับคดีอะไร เพราะตนยังไม่ได้รับแจ้ง ตนจะติดตามทุกเรื่องเพื่อหาความคืบหน้าต่อไป

ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่น้องมีความประสงค์จะดำเนินคดีกับทางนายโสนัย เพราะน้องเป็นผู้เสียหายจริง ตนจะต้องถามผ่านทางสังคมสงเคราะห์เพื่อช่วยเหลือต่อไป เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางศรีเมืองได้ออกหมายจับนายโสนัย เมื่อวันที่ 19 ส.ค. 66 ที่ผ่านมาอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายคาดว่าจะได้ตัวเร็วๆนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ