ศรีสุวรรณ จี้ กฟผ. เปิดเผยสัญญาซื้อไฟฟ้าเอกชน ส่อต้นเหตุค่า FT พุ่ง เกิดเสียงครหาขึ้น หวั่นมีผลประโยชน์แอบแฝง หากปิดข้อมูล เจอกันศาลปกครองแน่
25 เม.ย. 66 – นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า วันนี้ สมาคมฯ ได้ทำหนังสือส่งไปถึง ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
เพื่อขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายข้อมูลข่าวสาร ในการขอสำเนาเอกสารหนังสือสัญญาที่ กฟผ.ซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าของเอกชน ซึ่งสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้ค่าเอฟที (FT) พุ่ง และทำให้ค่าไฟฟ้าโคตรแพงนั้น ต้นเหตุมาจากการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชนแพงเกินไปหรือไม่
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาล ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ได้เปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนสามารถผลิตไฟฟ้าขายให้กับ กฟผ.ได้ จึงทำให้มีบริษัทเอกชนจำนวนมากประมูลขายไฟฟ้าให้กับ กฟผ.เป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ (IPP) ซึ่งมีสัญญาซื้อขายกันแล้ว 12 บริษัทรวม 17 โรงไฟฟ้า มีกำลังการผลิตตามสัญญารวม 17,023.50 เมกกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ที่มีสัญญาซื้อขายกันรวม 50 โรงไฟฟ้าทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้พลังงานก๊าซธรรมชาติ มีใช้ถ่านหินเพียง 4 โรงเท่านั้นมีกำลังการผลิตตามสัญญารวม 9,331.08 เมกกะวัตต์
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ที่ผ่านมากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศมีมากกว่า 53,659 เมกกะวัตต์ ขณะที่ปริมาณการใช้สูงสุดเมื่อปี 2565 มีเพียง 33,177.3 เมกกะวัตต์เท่านั้น ทำให้มีปริมาณไฟฟ้าสำรองสูงมากกว่า 60% ทำให้มีเสียงครหาเกิดขึ้นอย่างมากว่า สัญญาที่ กฟผ.ไปทำไว้กับโรงไฟฟ้าเอกชนแต่ละรายนั้น มีเงื่อนไขที่เรียกว่า “ค่าพร้อมจ่าย” อยู่ด้วย
เพราะแม้จะหยุดเดินเครื่องไม่ผลิตกระแสไฟฟ้า ให้ กฟผ. ก็ต้องจ่ายเงินให้เอกชนตามสัญญาตลอดไปจนหมดอายุสัญญา และเมื่อหมดอายุสัญญาแล้ว จะมีการผูกมัดให้ต้องรัฐซื้อต่อหรือไม่ด้วย
ปัญหาที่ผ่านมา กฟผ.อ้างมาโดยตลอดว่า มีภาระหนี้กว่า 1 แสนล้านจากต้นทุนการผลิตที่ต้องซื้อก๊าซ LNG จากต่างประเทศมาผลิตไฟฟ้าในราคาสูง ซึ่งโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ที่ต้องใช้ก๊าซมีถึง 11 โรง มีปริมาณการผลิตจำนวน 9,086 เมกกะวัตต์
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ซึ่งเมื่อก๊าซมีราคาแพง ทำไม กฟผ.ยังต้องนำเข้าก๊าซจากต่างประเทศในราคาที่แพงมาผลิตอีก ทั้งๆ ที่มีโรงไฟฟ้าของเอกชนที่ทำสัญญาการผลิตป้อนให้ กฟผ.มีมากถึง 67 โรงอยู่แล้ว
ส่วนเอกชนจะไปซื้อหาก๊าซมาผลิตไฟฟ้าจากไหนก็เป็นเรื่องของเอกชนที่ต้องรับภาระเอง ไม่ใช่ กฟผ. ต้องไปแบกรับภาระเสียเอง อีกทั้งโรงไฟฟ้าของเอกชนมีปริมาณการผลิตมากกว่าโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซของ กฟผ.เสียอีก หรือว่า การซื้อขายก๊าซดังกล่าวมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ด้วย
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ทั้งนี้ หาก กฟผ.เปิดเผยสัญญาทั้งหมดที่มีการรับซื้อไฟฟ้าจากเอกชน ก็เชื่อว่าจะพบข้อพิรุธมากมายที่จะได้นำมาเปิดเผยให้ประชาชนเจ้าของประเทศได้รับทราบ และหาก กฟผ.ไม่ยอมเปิดเผย คงต้องสู้กันถึงศาลปกครองแน่นอน