พนักงานกู้ภัยในเกาหลีใต้นำร่างผู้เสียชีวิต 13 ศพ ขึ้นมาจากอุโมงค์ทางลอดแห่งหนึ่งในเมืองชองจู ตอนกลางของประเทศ ที่จมอยู่ใต้น้ำ จากน้ำท่วมฉับพลันและฝนที่ตกหนักตลอดหลายวันที่ผ่านมา

ภัยพิบัติดังกล่าวทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งเกาหลีใต้พุ่งขึ้นไปแล้วที่ 40 ราย สูงกว่าที่รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (16 ก.ค.) ที่ 22 ราย

• เกาหลีใต้อ่วม! ฝนถล่ม-น้ำท่วม ดับแล้วอย่างน้อย 22 ราย สูญหายอีก 14 ราย

เจ้าหน้าที่ในเมืองชองจู เผยว่าเมื่อวันเสาร์ (15 ก.ค.) พนังกั้ริมฝั่งแม่น้ำมีโฮแตกออก ทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมอุโมงค์ทางลอดแห่งนี้ โดยขณะเกิดเหตุมียานพาหนะใต้ทางลอด 15 คัน หนึ่งในนั้นเป็นรถเมล์ ส่วนศพ 13 ศพนี้ได้รับการประกาศว่าเสียชีวิตตั้งแต่หลังจากยานพาหนะติดอยู่ในอุโมงค์ทางลอด

การกู้ร่างของผู้เสียชีวิตขึ้นมาใช้เจ้าหน้าที่กู้ภัยราว 900 คน

ด้านประชาชนในเมืองและครอบครัวผู้เสียชีวิตต่างวิจารณ์เจ้าหน้าที่รัฐอย่างหนัก ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เพราะไม่ได้ปิดอุโมงค์ทางลอดอย่างทันท่วงทีทั้งที่รู้แล้วว่าระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

เดอะ โคเรีย ไทม์ส สำนักข่าวในเกาหลีใต้ เผยว่าได้สอบถามไปยังคณะผู้บริหารจังหวัดชุงชองเหนือว่าเหตุใดจึงไม่สั่งการให้ปิดอุโมงค์ในขณะนั้น และได้รับคำตอบว่าแนวทางการรับมือภัยพิบัติไม่ได้บังคับว่าจะต้องปิดอุโมงค์ทางลอดแห่งนี้ทันทีท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว

นายยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวเตือนว่าวิกฤตด้านภูมิอากาศส่งผลให้สภาพอากาศรุนแรงจะกลายเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนต้องเผชิญ

“สภาพอากาศโหดร้ายรุนแรงเช่นนี้จะกลายเป็นเรื่องปกติ … เราต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศกำลังเกิดขึ้น และต้องรับมือให้ได้” นายยุน ซอก-ยอล กล่าว