เกษตรกร ชาวจ.บุรีรัมย์ ยังคงเผาวัชพืชและใบอ้อย ไม่สนคำสั่งห้าม ทำให้เสี่ยงที่จะเกิดฝุ่น PM2.5 แม้ขณะนี้จังหวัด ยังมีคุณภาพอากาศที่ดีก็ตาม

เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรหลายพื้นที่ในจ.บุรีรัมย์ ยังใช้วิธีการจุดไฟเผาวัชพืชในนาข้าวรวมถึงตอ และใบอ้อยในไร่อ้อยหลังเก็บเกี่ยว ส่งผลให้เกิดกลุ่มควันเป็นวงกว้าง ทั้งฝุ่นละอองขนาดเล็ก มลภาวะทางอากาศ บางพื้นที่เผาใกล้กับสายไฟและถนน ทำให้เสี่ยงเกิดไฟไหม้ และเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุจากการสัญจรได้ เพราะการกลุ่มควันจากการเผาส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็น

ถึงแม้คุณภาพทางอากาศในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ จะอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีไม่ได้มีปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ก็ตาม แต่หลายหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดก็ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ PM2.5 ไฟป่า และหมอกควันอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ทางจังหวัดยังได้มีการออกประกาศ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชน และเกษตรกรในทุกพื้นที่ห้ามเผาทุกกรณี เพื่อร่วมกันป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามลภาวะ แต่เกษตรกรบางพื้นที่ก็ยังลักลอบเผา

นายสุริยา ศรีสม หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ สำนกงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า หลายหน่วยงานในพื้นที่จังหวัด ได้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ไฟป่า และ PM2.5 รวมถึงร่วมกันกำหนดมาตรการในการป้องกันไฟป่า และปัญหามลภาวะในพื้นที่ ไม่ว่าจะเกิดจากไฟป่า หรือจากการจุดไฟเผาของประชาชน และเกษตรกรก็ตาม

ถึงแม้คุณภาพสภาพอากาศในพื้นที่จ.บุรีรัมย์ จะอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดีไม่ได้มีปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ก็ตาม แต่หลายภาคส่วนก็ต้องร่วมกันหามาตรการป้องกันอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามก็ขอความร่วมมือประชาชน และพี่น้องเกษตรกรห้ามเผาในทุกรณี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหามลภาวะทางอากาศด้วย