ยอดขายปุ๋ยคอกเพิ่ม หลังปุ๋ยเคมีแพง ทั้งค่าขนส่ง และสภาพเศรษฐกิจ ส่งผลให้สินค้าขาดตลาด แนะรัฐบาลส่งเสริมเกษตรกร ให้เข้าถึงแหล่งผลิตราคาถูก
เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นแหล่งที่มีการเลี้ยงโคเนื้อและโคนมกันเป็นจำนวนมาก นายประเสริฐ คอนเมฆ อายุ 60 ปี ชาวต.หนองโพ อ.โพธาราม ผู้ประกอบการค้าส่ง ค้าปลีก ปุ๋ยคอกจากมูลโค เปิดเผยว่า ตนทำอาชีพรับซื้อ และจำหน่ายปุ๋ยคอกจากมูลโคมาแล้วกว่า 30 ปี
ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวสวนชาวไร่ อาทิ สวนทุเรียน ส้ม ปาล์ม และยาง เป็นต้น โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ เริ่มจำหน่ายมาตั้งแต่ราคาที่กระสอบละ 5 บาท จากนั้นราคาก็เริ่มมีการปรับไปตามยุคสมัย และสภาพเศรษฐกิจ
สำหรับปุ๋ยคอกมูลโค เกษตรกรจะนิยมซื้อหากันในช่วงฤดูฝน ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนด้านแรงงานในการให้น้ำ เพราะน้ำฝนจะช่วยให้พืชดูดซึมแร่ธาตุได้ง่าย จึงทำให้ราคาจำหน่ายมูลโคสูงกว่าในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน นอกจากนี้มูลโคยังเป็นวัตถุดิบที่กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตปุ๋ยมูลไส้เดือนต้องการอีกด้วย
กระทั่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ราคาปุ๋ยเคมีได้พุ่งสูงขึ้นกว่า 1 เท่าตัว และยังหาได้ยากตามท้องตลาด เกษตรกรจำต้องหันมาพึ่งพาปุ๋ยคอกกันมากขึ้น ทำให้เกิดการแย่งสินค้า ดักซื้อขายให้ราคากันถึงหน้าฟาร์ม ส่งผลให้ราคาซื้อขายมูลโคนมในพื้นที่จากเดิมอยู่ที่กระสอบละ 20 บาท ขยับขึ้นมาเป็น 25-28 บาท และหากถึงมือเกษตรกรปลายทาง ราคาจะขยับขึ้นไปอีกประมาณร้อยละ 30 จากค่าน้ำมัน และค่าบริหารจัดการระหว่างดำเนินการขนส่ง
อย่างไรก็ตามจากการสังเกตพบว่า ลูกค้าที่เพิ่มเข้ามาจะเป็นกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จ.ราชบุรี และใกล้เคียง แต่ในส่วนของพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ กลับมียอดซื้อลดลงประมาณร้อยละ 50 เนื่องจากได้รับผลกระทบของราคาค่าขนส่ง และเกษตรกรขาดสภาพคล่องในการลงทุน
ทั้งนี้ตนมองว่าการที่ภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมให้เกษตรกรลดต้นทุนด้วยการใช้ปุ๋ยคอก ก็ควรจะเร่งประชาสัมพันธ์แหล่งผลิต ตลอดจนสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่ม เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงปุ๋ยคอกที่มีคุณภาพอย่างเพียงพอ และทั่วถึงในราคายุติธรรม