เกษตรกรโคนม วอนรัฐเร่งแก้ราคาน้ำนมดิบ หวั่น FTA ทำลายอาชีพ ผลพวงต้นทุนแพง

Home » เกษตรกรโคนม วอนรัฐเร่งแก้ราคาน้ำนมดิบ หวั่น FTA ทำลายอาชีพ ผลพวงต้นทุนแพง



ราชบุรี ผลพวงต้นทุนแพง เกษตรกรโคนม วอนรัฐเร่งแก้ราคาน้ำนมดิบ หวั่น FTA ทำลายอาชีพในอนาคต สูญเสียความสามารถการแข่งขันกับตลาดโลก

จากกรณีชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด หรือ มิลค์บอร์ด ได้ขอให้มีการปรับราคากลางรับซื้อน้ำนมดิบหน้าศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ เดิมที่ 17.50 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 19.75 บาทต่อกิโลกรัม ปรับราคากลางรับซื้อน้ำนมโค หน้าโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม จาก 19 บาท เป็น 20.50 บาท

รวมทั้งขอให้มีการชดเชยให้กับศูนย์รวบรวมน้ำนมดิบ 0.75 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยได้ยื่นเรื่องผ่านกรมปศุสัตว์ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีชื่อเสียงในด้านการเลี้ยงโคนม ปัจจุบันมีเกษตรกรรวมกว่า 24,083 ราย และโคนมจำนวน 43,670 ตัว

นายเอกชน ศรีสวัสดิ์ อายุ 50 ปี เกษตรกรชาว ต.หนองโพ อ.โพธาราม เปิดใจว่า ตนเริ่มต้นทำอาชีพนี้มาตั้งแต่อายุ 15 ปี ปัจจุบันมีโคนม รวม 45 ตัว แบ่งเป็นแม่โคท้อง จำนวน 5 ตัว และแม่โครีดนม 15 ตัว จะสามารถรีดน้ำนมได้วันละประมาณ 120 กิโลกรัม ที่เหลือเป็นโคสาวและลูกโค จำนวน 20 ตัว

ซึ่งในแต่ละวันจะมีค่าใช้จ่ายบริหารจัดการฟาร์ม ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่ายาเวชภัณฑ์ และค่าอาหารสัตว์ แต่ด้วยสถานการณ์ราคาราคาน้ำมันเชื้อเพลิง วัตถุดิบอาหารสัตว์ ตลอดจนราคาของปุ๋ยเคมี และยารักษาสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ส่งผลให้ต้นทุนที่ยังไม่รวมค่าแรงงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60-70 อาทิ อาหารข้น จากเดิมที่เคยซื้อ สูตรโปรตีน 18 น้ำหนัก 30 กิโลกรัม ราคากระสอบละ 295 บาท ปรับขึ้นมาอีกกระสอบละ 70 บาท เป็น 365 บาท ขณะที่ราคารับซื้อน้ำนมดิบปัจจุบันอยู่ที่ 19 บาทต่อกิโลกรัม

ส่วนวิธีแก้ปัญหาในเบื้องต้น ตนทำการคัดเลือกโคที่มีปัญหาด้านอัตราการให้นมต่ำ และสุขภาพออก เพื่อลดต้นทุน

จากการพูดคุยกันของเพื่อนเกษตรกร ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ราคน้ำนมดิบที่เป็นอยู่ ไม่เพียงพอกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จึงอยากวอนให้รัฐพิจารณา ปรับราคากลางรับซื้อน้ำนมดิบ อย่างน้อยกิโลกรัมละ 3 – 4 บาท เพื่อความอยู่รอดของเกษตรกร

ถึงแม้ว่ามิลค์บอร์ดจะได้ยื่นเรื่องขอให้ปรับราคารับซื้อน้ำนมดิบต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วก็ตาม แต่สิ่งที่ตนและเพื่อนเกษตร ทั้งฟาร์มขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางมองเห็นและวิตกกังวลอีกประเด็นหนึ่งคือ เรื่องของเขตการค้าเสรี หรือ FTA

ที่ในปี 2568 อัตราภาษีการนำเข้านมและผลิตภัณฑ์นม ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศไทย-ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ จะเป็นร้อยละ 0 ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์นมจากต่างประเทศถูกกว่าราคาน้ำนมดิบของไทย

ดังนั้น นอกจากการปรับราคารับซื้อน้ำนมดิบแล้ว รัฐบาลควรควบคุมราคาต้นทุนการผลิต รวมทั้งมีมาตรการช่วยเหลือในด้านอื่นเพิ่มขึ้น หากยังต้องเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ เกษตรกรจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับตลาดโลก ยังส่งผลกระทบต่ออาชีพเกษตรกรโคนมไทยในอนาคตอีกด้วย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ