กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมง ของญี่ปุ่น อนุญาตให้นำเข้ามังคุดจากไทยโดยไม่ต้องอบไอน้ำแล้วเมื่อไม่นานมานี้

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นผลมาจากการเจรจาที่ยาวนานถึง 4 ปี จากเดิมที่ตั้งแต่ปี 2546 ญี่ปุ่นอนุญาตให้นำเข้ามังคุดจากไทยได้แต่จะต้องอบไอน้ำเพื่อฆ่าแมลงวันเสียก่อน แต่การอบไอน้ำทำให้เนื้อมังคุดไม่สมบูรณ์

หลังจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว สถานทูตไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ มีการจัดงานประชาสัมพันธ์มังคุดที่กรุงโตเกียวเมื่อวันอังคาร (19 ก.ย.)

นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษ เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโตเกียวของญี่ปุ่น โพสท่าถ่ายรูปกับมังคุดในงานประชาสัมพันธ์มังคุดและกล้วยไทย ที่กรุงโตเกียว ของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2566

งานนี้ผู้ประกอบการนำเข้าและส่งออกผลไม้ไทยหลายรายเข้าร่วม ทั้งยังให้ข้อมูลแก่ผู้ร่วมงานถึงแหล่งปลูก ขั้นตอนการนำเข้าใหม่ที่ได้รับการอนุญาต และแนะนำวิธีการรับประทานมังคุดและอาหารที่ทำจากมังคุดด้วย

ที่ผ่านมา ไทยผลิตมังคุดได้ราว 250,000 ตันต่อปี โดยบริโภคในประเทศราว 40,000 ตัน ส่วนที่เหลือส่งออกไปยังต่างประเทศ โดย 93% ส่งออกไปยังประเทศจีน แต่ญี่ปุ่นนำเข้ามังคุดไทยเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเพียง 100 ตันต่อปี โดยไทยมีเป้าหมายเพิ่มการส่งออกไปยังญี่ปุ่นให้ได้ 1,000 ตันภายใน 2 ปีจากนี้

นอกจากมังคุด ญี่ปุ่นยังอนุญาตให้นำเข้าผลไม้สดจากไทยได้อีก 7 ชนิด คือ กล้วย ทุเรียน มะขาม มะพร้าว มะม่วง ส้มโอ และสับปะรด

งานประชาสัมพันธ์ครั้งนี้ไม่ได้มีแต่มังคุดเท่านั้น แต่ยังมีการส่งเสริมให้ชาวญี่ปุ่นรู้จักกล้วยหอมทองของไทยด้วย ซึ่งเป็นกล้วยที่มีกลิ่นหอมและผลใหญ่