นักฟุตบอลคนไหนโดนใบแดงมากที่สุดในโลก ?
สำหรับคำถามนี้คนดูบอลส่วนใหญ่คงตอบว่า เซร์คิโอ รามอส หรือ เปเป้ … ทว่าความจริงไม่ใช่ พวกเขาสองคนนี้ยังห่างไกลอันดับ 1 อีกบานเบอะ
เพราะอันดับ 1 ของโลกคือ เกราร์โด เบโดยา นักเตะชื่อไม่คุ้นแต่มีดีกรีทีมชาติโคลอมเบีย … เขาคนนี้คือคนที่สื่อใหญ่ระดับโลกตามไปหาตัวถึงที่เพื่อถ่ายทอดเรื่องราว
ทว่าเมื่อเจอเขาจริง … ความประหลาดใจของทั้งนักเตะและทีมงานสัมภาษณ์ก็เกิดขึ้น ติดตามเรื่องราวได้ที่นี่
ไม่เป็นเราไม่เข้าใจ
มีข้อสังเกตถึงนักกีฬาจากทวีปอเมริกาใต้เสมอ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นสตาร์หรือแข้งโนเนม เรามักจะได้เห็นมุมแบด ๆ ของพวกเขาอยู่เรื่อยมา ย้อนกลับไปในยุคที่ยังไม่มีอินเตอร์เน็ตแพร่หลาย ในภาพกีฬามัน ๆ หรือข่าวฟุตบอลต่าง ๆ ก็มักจะมีเรื่องราวความเดือดของทั้งนักเตะและแฟนบอลในลาตินอเมริกาเสมอ … ซึ่งบางทีเรื่องเหล่านี้อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ชาวละติน โดนมองว่าเป็นพวกชอบแหกกฎ ไม่สนกติกา ซึ่งเหตุผลปนข้ออ้างบางข้อบอกว่า ต้นเหตุเป็นเพราะธรรมชาติของพวกเขาเป็นพวกรักอิสระ ไม่ชอบใช้ชีวิตภายใต้กฎและการควบคุม
Photo : WWD
เว็บไซต์ My Latin Life เล่าถึงประสบการณ์ตรง ในฐานะคนนอก ที่หลงใหลและวัฒนธรรมลาตินอเมริกา โดยเผยว่า นิสัยทั่วไปของคนลาตินอเมริกา โดยเฉพาะผู้ชาย คือ รักความสนุกเฮฮา, ชอบกีฬามวย, รักการปาร์ตี้ เพราะว่าชอบเมา และจะได้คลอเคลียกับสาวสวยตลอดทั้งคืน
ซึ่งหากจะเอาไปเกี่ยวกับวิธีการเล่นและการเป็นนักฟุตบอลของนักเตะละตินก็ย่อมได้ เรามีตัวอย่างให้เห็นมากมาย พวกเขารักสนุกแบบสุดเหวี่ยง อาทิ โรนัลดินโญ่, โรนัลโด้ (R9) หรือแม้กระทั่ง อาเดรียโน ก็เป็นนักเตะประเภทที่ไม่มีใครควบคุมชีวิตนอกสนามของพวกเขาได้
และเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับการเล่นตุกติก รุนแรง ในสนามพอสมควร เพราะเวลาที่พวกเขาคิดจะทำอะไร พวกเขาก็ทำในทันที หลุยส์ ซัวเรซ และ ดิเอโก มาราโดนา ไม่เคยรู้สึกผิดกับการทำแฮนด์บอลในตำนานของทั้งคู่ นั่นเพราะว่าพวกเขาเชื่อว่านั่นคือการ “ทำเพื่อชาติ” … เมื่อถึงนาทีชี้เป็นชี้ตาย ก็พร้อมจะทำผิดกติกาได้ในทันที
Photo : Goal
เช่นเดียวกับการเตะหนัก เล่นคน เข้าบอลสกปรก ก็ถือเป็นสิ่งที่อยู่ในแนวทางเดียวกับที่กล่าวมาในข้างต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงสภาพเศรษฐกิจของแต่ละประเทศในทวีปอเมริกาใต้ที่ยากจน โดนกดขี่จากการทุจริตทางการเมือง ยิ่งทำให้พวกเขาไม่ลังเลที่จะทำอะไรให้ตัวเองเป็นฝ่ายชนะ
มองอีกแง่คือ ชาวละติน เป็นพวกนักสู้ ปากกัด ตีนถีบ เติบโตมากับชุดความคิดที่ว่าต้องเรียนรู้ ทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ชีวิตได้ออกไปจากจุดที่ย่ำแย่ที่เคยอยู่ นั่นแหละคือเหตุผลที่พวกเขาพร้อมจะทำอะไรก็ตามที่พวกเขาถูกใจ แม้ใครจะมองว่าไม่ถูกต้องก็ตาม …
ย้ำอีกสักครั้ง นี่ไม่ได้เป็นการเหมารวมคนละตินทั้งหมด เป็นเพียงการตีแผ่เรื่องราวและความเชื่อที่ใครหลายคนบนโลกนี้มองคนละตินเป็นเช่นนั้น … เหมือนกับที่ทุกคนมองดู เกราร์โด เบโดยา นักเตะที่โดนใบแดง 46 ใบตลอดชีวิตค้าแข้งว่าเป็น “นักเตะที่สกปรกที่สุดในโลก
เบโดยา … ฆ่าลูกเดียว
เกราร์โด เบโดยา ไม่ใช่นักเตะรุ่นเก่ากึ๊กมากมายอะไร ช่วงสมัยที่เขาค้าแข้งเกิดขึ้นในช่วงปี 1998 จนกระทั่งปี 2015 ตอนอายุ 40 ปี เลยทีเดียว ผ่านการค้าแข้งมามากกว่า 10 สโมสร และแน่นอนใบแดงสุดท้ายในชีวิตเขาเกิดขึ้นตอนอายุ 40 ปีเช่นกัน
Photo : BBC
เขาอาจจะไม่ได้มีชื่อดังติดหู แต่แค่คุณพิมพ์ชื่อของเขา Gerardo Bedoya ลงใน Google หรือ YouTube คุณจะได้เห็นเรื่องราวของเขาปรากฏบนหน้าสื่อใหญ่มากมาย และทุก ๆ สื่อ ทุก ๆ คลิป แทบจะพาดหัวด้วยคำเดียวกันหมด … “นักเตะที่เล่นได้สกปรกที่สุดในโลก” นั่นคือคำโฆษณาตัวเขา
เกราร์โด เป็นนักเตะตำแหน่งกองกลางตัวรับ ซึ่งตามตำรับตำราก็ต้องยอมนับว่านักเตะตำแหน่งนี้ในช่วงยุค 90s ต่อ 2000s นั้นล้วนแต่เป็นนักเตะสไตล์ฮาร์ดแมน เตะเป็นเตะ หวดเป็นหวดทั้งสิ้น … แต่ เกรารโด้ เบโดยา ค่อนข้างจะต่างจากภาพจำที่เราเห็นจากนักเตะอย่าง วินนี่ โจนส์, เปาโล มอนเตโร หรือ เซร์คิโอ รามอส อยู่พอสมควร
ความแตกต่างคือ 3 ชื่อที่กล่าวมาจะทำการเล่นนอกกฎอย่างแนบเนียนที่สุด เรียกได้ว่าใช้เล่ห์ชิงเหลี่ยมในการ “หวด” ใส่สักคน แต่ เบโดยา เหรอ … ไม่ต้องเสียเวลา “หวดกันซึ่ง ๆ หน้าเลยดีกว่า”
“เมื่อนักเตะอย่าง เบโดยา ปรากฎตัวในสนามไม่กี่นาที เขาก็จะต้องทำอะไรสักอย่างให้แฟนบอลได้เห็น ภาพจำที่เห็นเขาในการถ่ายทอดสดคือการโดนผู้ตัดสินแจกใบแดง หรือการไล่เตะคู่แข่งดื้อ ๆ เป็นประจำ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องเห็นเสมอยามเขาออกทีวี” คาร์ล วอร์สวิก นักข่าวฟุตบอลชาวโคลอมเบีย กล่าว
https://www.youtube.com/watch?v=Qb8KlW9HeTY
ใบแดงของ เกราร์โด แต่ละใบนั้นผู้ตัดสินแทบไม่ต้องคิดมาก หลังจากได้ดูคลิปวีดีโอแบบรวม ๆ ของเขาใน YouTube แล้ว ต้องยอมรับว่าเพิ่งเข้าใจคำว่า “ตั้งใจเตะ” ก็วันนี้ เพราะเขามักจะหวดผู้เล่นฝั่งตรงข้ามไม่ว่าจะด้วย หมัด เท้า ท่อนแขน และ ศอก หนำซ้ำยังมีใบแดงบางใบที่เขาเตะจนล้มแล้วเอารองเท้าสตั๊ดไปเหยียบหัวซ้ำอีกต่างหาก
ครั้งหนึ่งจากหลาย ๆ ครั้ง เบโดยา มักจะโดนสัมภาษณ์หลังเกมที่เขาโดนใบแดงว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เขามักจะตอบกลับด้วยวาจาที่ดูจะไม่สะทกสะท้าน อย่างเช่นถ้าเจอคำถามว่า ทำไมถึงเล่นสกปรกขนาดนั้น … เขาจะตอบกลับว่า “ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย”
การเขียนบรรยายถึงตัวของ เบโดยา ในเว็บไซต์สื่ออังกฤษอย่าง Daily Mail อธิบายถึงความโหดเถื่อนทั้งในการเข้าปะทะ การเล่นนอกเกมแบบตามอารมณ์ไม่มีกั๊ก การขัดขืนคำสั่งของกรรมการ ไปจนถึงการทะเลาะกับเพื่อนร่วมทีม นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกถึงตัวเขาทั้งหมด
ทว่าสิ่งที่น่าเสียดายคือ บทสัมภาษณ์ของตัวเขาโดยตรงนั้นแทบไม่มีปรากฎในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ หรือแม้กระทั่งคลิปวีดีโอการโดนใบแดงของเขาก็มีไม่มากนัก จากใบแดง 46 ใบ มีคลิปยืนยันไม่เกิน 5 ใบ … ดังนั้นเราจะตัดสินใจว่าเขาเลวทรามและเล่นสกปรกจนน่ารังเกียจได้หรือ ?
Photo : Eurosport
ไม่ใช่แค่คุณที่สงสัย เพราะสำนักข่าวใหญ่ระดับโลกอย่าง BBC เองก็อยากรู้คำตอบที่แท้จริงเหมือนกัน พวกเขาตามหาตัว เกราร์โด เบโดย่า และคนรอบข้างที่สนิทชิดเชื้อกับเขา ว่าแท้จริงแล้ว “เขาเป็นพวกต่ำช้า” อย่างที่คอมเมนท์ในวีดีโอ YouTube ว่าไว้จริงหรือไม่?
ความจริงจากคนรอบข้าง
สำหรับเรา ๆ ท่าน ๆ หรือคนที่ไม่ได้ผูกพันกับฟุตบอลลีกในอเมริกาใต้เลย ก็คงจะตัดสินเขาในแบบที่สื่อนำเสนอทันที นั่นจึงทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเป็นนักเตะที่ดูเหมือนไม่ใครอยากจะญาติดีด้วย … ทว่าเรื่องราวมันตรงกันข้าม คนอย่าง เบโดยา คือ “คัลท์ ฮีโร่” หรือ “ขวัญใจแฟนบอล” ของแทบทุกทีมที่เขาไปเล่นด้วย …
ประการแรกเลย คือนักเตะประเภทนี้ถ้าได้ลองลงสนามแล้ว นอกจากการไล่เตะจริงไล่หวดจริงแล้ว พวกเขายังมุ่งมั่นเต็มร้อยเพราะอยากให้ทีมเป็นผู้ชนะ เบโดยา ก็เช่นกัน ในวันที่เขาเล่นกับ ซานตา เฟ, เดปอร์ติโว คาลี, พัวบลา, ราซิง คลับ หรือแม้แต่ โบคา จูเนียร์ส เขาคือขวัญใจของแฟนบอลท้องถิ่นอย่างแท้จริง
Photo : The42
“เขาเป็นคนที่มีบุคลิกแบบน่าสนใจมาก ที่ ซานตา เฟ แฟน ๆ รักเขาอย่างที่สุด เขาเป็นผู้เล่นที่เล่นได้เร้าใจมาก แม้จะเป็นตัวรับแต่ก็เติมเกมบุกตลอด ไม่เคยกลัวเวลาเทคตัวกระโดดโหม่ง คือเป็นพวกทุ่มเท 100%”
“เขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้ทีมเป็นฝ่ายได้เปรียบ นั่นดูจะโบราณไปสักหน่อยนะ แต่เขาเป็นพวกที่อินกับตราสโมสรบนหน้าอกเสื้อของเขามาก” วอร์สวิก ว่าถึง เบโดยา ต่อ
“เบโดยา เป็นนักเตะที่น่าเคารพสำหรับคนที่นี่ เขายิงประตูที่น่าทึ่ง แต่แน่นอนหละ เขาย่อมรู้สึกว่าเขาเป็นที่จดจำแต่เฉพาะเรื่องของการโดนใบแดง ซึ่งแท้จริงแล้ว ชีวิตค้าแข้งของเขามีเรื่องให้น่าจดจำเยอะกว่านั้นมาก”
เบโดยา ไม่ใช่นักเตะที่ไม่เก่ง เขาเริ่มเล่นอาชีพกับ เดปอร์ติโว เปเรย์รา เป็นที่แรกในปี 1995 ก่อนย้ายสู่ เดปอร์ติโว คาลี ในอีก 3 ปีต่อมา เขาช่วยพาทีมคว้าแชมป์ลีก ติดทีมชาติโคลอมเบียชุดเยาวชน จนกระทั่งก้าวขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ในท้ายที่สุด
Photo : The42
การขึ้นเป็นนักเตะทีมชาติชุดใหญ่ เป็นการการันตีแบบชัด ๆ ว่าเขามีฝีเท้าที่ไม่ธรรมดา … ทว่าสิ่งที่ เบโดยา ทำในนามทีมชาติ ถือว่ายิ่งใหญ่กว่าการ “แค่ติดทีมชาติ” มากมายนัก เพราะเขาคือนักเตะทีมชาติโคลอมเบีย ในการคว้าแชมป์รายการระดับเมเจอร์ครั้งเดียวของพวกเขา นั่นคือการคว้าถ้วย โคปา อเมริกาในปี 2001 … แม้โคลอมเบียในยุคนี้จะมีนักเตะเก่ง ๆ มากมาย แต่ก็ยังไม่เคยทำผลงานทาบขุนพลชุดที่ เบโดยา เป็นหนึ่งในนั้นได้เลย และเขาก็เป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมเสียด้วย
โอมาร์ วาสเกวซ ปีกชาวโคลอมเบีย ที่เล่นร่วมกับ เบโดยา ในทีม มิลโยนาริออส ระหว่างปี 2007-2010 เล่าถึงเรื่องสิ่งที่คนจดจำถึงตัวเขาว่า สำหรับแฟนบอลโคลอมเบีย เบโดยา เองก็เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม และได้รับความเคารพเป็นอย่างมากในฐานะนักเตะชุดประวัติศาสตร์ของชาติ
“เบโดยา คือผู้ชนะ และผู้สร้างประวัติศาสตร์ เขาเป็นนักเตะที่เล่นให้กับทีมที่ดีที่สุดในอาร์เจนตินาและโคลอมเบีย … มันไม่แปลกหรอกที่พวกเขาจะจดจำ เบโดยา ในด้านที่เลวร้าย แต่มันจะยิ่งน่าแปลกใจกว่า ถ้าไม่มีใครจดจำเขาในฐานะผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมสำหรับประเทศของเขา”
“ไม่ว่าใครจะว่ายังไง แต่สำหรับผม เขาคือคนที่ผมยกย่อง ผมสนุกและมีช่วงเวลาที่ดีกับเขาอย่างมากมาย” วาสเกวซว่าถึงเพื่อนซี้สมัยเป็นนักเตะ
Photo : Eurosport
สิ่งที่เหนือความคาดหมายอีกอย่างคือ จากการยืนยันของคนรอบข้างของเขา เบโดยา มีคาแร็คเตอร์นอกสนามแตกต่างกับสิ่งที่เขาแสดงออกในสนามเป็นอย่างมาก เขาเป็นคนที่ใส่ใจคนอื่น ๆ เป็นมิตร และไม่ได้เป็นคนสกปรกแบบที่ชาวโลกพูดถึงเขา
“เกราร์โด เบโดยา คือผู้นำที่แข็งแกร่ง เป็นคนที่พร้อมไฟต์ เขาจะสั่งเพื่อนร่วมทีมทุกคนเสมอ … เมื่ออยู่นอกสนาม เขาชอบช่วยเหลือคนอื่น เป็นมิตร และแน่นอนที่สุดเขาเป็นคนที่มีจิตใจสูงส่งด้วย” วาสเกวซ กล่าว
ทีมสัมภาษณ์ของ BBC เดินทางพบกับคนรอบข้าง เบโดยา ราว 3-4 คนก่อนที่พวกเขาจะทำบทความที่ชื่อว่า “Gerardo Bedoya: The story of the world’s ‘dirtiest’ footballer” ขึ้นมา และในบทความนั้นพวกเขายอมรับว่า “ผิดคาดเป็นอย่างมาก” จากบทสัมภาษณ์ที่พวกเขไาด้รับ
BBC คาดหวังว่าพวกเขาจะได้เรื่องและราวและสตอรี่อันแสบดิบเถื่อน ปูมหลังความโหด หรือวิธีที่เขาปฏิบัติตัวแบบพันธุ์ดุเมื่ออยู่กับเพื่อนร่วมทีม … ที่ไหนได้ ข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดกลับตาลปัตรไปเป็นคนละด้านอย่างไม่น่าเชื่อ จากจุดขายที่จะขายเรื่องความสกปรก ก็กลายเป็นการบอกปูมหลังกับด้านที่น่าเคารพของ เกราร์โด เบโดยา ไปโดยปริยาย
“ก่อนที่จะไปสัมภาษณ์เขา พวกเราทำการถ่ายภาพมาทาดอร์กำลังล่อวัวกระทิงเพื่อเอามาใช้เป็นฟุตเทจประกอบวีดีโอเพื่ออธิบายตัวตนของเขา แต่เขาตรงข้ามกับสิ่งที่เราคาดหวังเป็นอย่างมาก”
Photo : Diez
“เขาชี้ให้เห็นว่านอกสนามกับในสนามของเขาแตกต่างกันคนละขั้ว เขาเป็นนักฟุตบอลที่เก่ง แต่ไม่มีใครเคยพูดถึงแง่นั้น มีแต่คนบอกว่าเขาเล่นสกปรกที่สุดในโลก” วอร์สวิก ยืนยันอีกครั้ง
งานล่าสุดของ เกราร์โด เบโดย่า คือการเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม ซานตา เฟ อดีตต้นสังกัดของเขาระหว่างปี 2016-2019 มันอาจจะเป็นเรื่องตลกอยู่หน่อย ๆ ที่เขายังคงโดนไล่ออกเพราะไปด่าผู้ช่วยผู้ตัดสินตั้งแต่เกมแรกที่รับงานด้วยเวลาเพียง 21 นาทีเท่านั้น ทว่าเมื่อเวลาผ่าน เขาก็เริ่มจะเข้าใจว่าการไม่สร้างศัตรูนั้นดีที่สุด ทำงานไปให้ผลงานบอกดีกว่าการแสดงออกในด้านลบแบบที่เขาทำ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวเขาก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว นอกเสียจากเปลี่ยนแปลงตัวเอง และแสดงด้านบวกของตัวเองเพื่อหักล้างสิ่งที่เกิดขึ้น เผื่อภาพด้านลบจะหายไปในอนาคต
“ถ้าคุณจะตัดสินผมว่าเป็นพวกบ้าดีเดือดก็ย่อมได้ แต่ผมว่าคุณใจเย็น ๆ ก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งตัดสินผมอย่างนั้นเลย” เกราร์โด เบโดยา กล่าวสั้น ๆ ในบทความของ Daily Mail