ผู้ปกครอง-นักเรียน-ชาวบ้าน รวมตัวขับไล่ผอ.โรงเรียนหญิง ออกนอกพื้นที่ โวยอยู่แต่ในห้องไม่สนใจเรื่องการศึกษา แฉโดนไล่มาแล้วถึง 3 โรงเรียน ก่อนย้ายมาอยู่ที่นี่ ขณะที่ผอ.เขตพื้นที่การศึกษา เรียกประชุมด่วนสรุปผอ.ไม่ผิด

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 พ.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน ผู้ปกครองและนักเรียนชั้นมัธยมกว่า 300 คนในพื้นที่ ต.เกาะรัง อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี รวมตัวประท้วงขับไล่ผอ.โรงเรียน โดยระบุ ไม่สนใจดูแลเรื่องการศึกษาและกีฬา สั่งปิดธนาคารออมทรัพย์โรงเรียน สั่งปิดโรงผลิตน้ำดื่ม ไม่มีการเบิกจ่ายค่าอุปกรณ์การเรียน

ตัวแทนนักเรียน ระบุ การประท้วงผอ.ครั้งนี้ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง เกิดจากความอัดอั้นตันใจตั้งแต่ผอ.คนนี้มารับตำแหน่ง รับปากว่าจะพัฒนาการศึกษาโรงเรียน แต่แล้วกลับไม่เป็นตามที่พูด ทุกวันอยู่แต่ในห้องทำงานไม่เคยออกมาดูแลความเป็นอยู่การเรียนของนักเรียนว่าเป็นเช่นไร

ส่วนผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ผอ.ก่อนหน้าที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่ ก็เคยโดนชาวบ้านและนักเรียนร้องเรียนประท้วงขับไล่มาแล้วถึง 3 แห่งติดต่อกัน พอย้ายมากลับมาสร้างปัญหาในพื้นที่อีก จนครูใต้บังคับบัญชาหมดกำลังใจ ขอย้ายไปสอนที่โรงเรียนอื่นหลายสิบคน อีกทั้งไม่สามารถเข้ากับผู้ปกครองของนักเรียนและชาวบ้านได้ จึงได้รวมตัวกันประท้วงขับไล่ผอ.ให้ออกจากพื้นเช่นกัน

ขณะที่ครู กล่าวว่า ผอ.คนนี้เคยถูกชาวบ้านและนักเรียนรวมตัวประท้วงมาแล้ว และสำนักงานเขตพื้นที่ ลพบุรี เขต 2 ก็มีหนังสือสั่งการให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตฯเป็นเวลา 3 เดือน แต่ผอ.ก็ไม่เดินทางไปปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งแต่กลับมาทำงานที่โรงเรียนจนมีหนังสือติดตามตัว แต่แล้วจู่ๆผ่านไปได้ไม่ถึง 2 เดือน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ก็มีหนังสือให้กลับมาปฎิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิมที่โรงเรียน สร้างความประหลาดใจกับชาวบ้าน นักเรียน และครูอย่างมาก

ด้าน ดร.มโน ชุนดี ผอ.สปพ.ลพบุรี เขต 2 ซึ่งเดินทางมาที่โรงเรียน ก่อนเรียกผอ.และผู้เกี่ยวข้องเข้าประชุมด่วน กล่าวว่า จากการประชุมและตรวจสอบข้อเท็จจริง สรุปว่าผอ.ยังไม่ได้มีการกระทำความผิด จึงยังไม่สามารถลงโทษให้ออกนอกพื้นที่ตามข้อเรียกร้องของนักเรียนและชาวบ้านได้ โดยให้รอง ผอ.โรงเรียนทำความเข้าใจกับนักเรียนและชาวบ้านถึงกฎระเบียบและผลสรุปที่ไม่สามารถเอาผิดผอ.ได้

เมื่อผู้ปกครอง และนักเรียน ทราบผลการประชุมว่า สามารถเอาผิดผอ.ได้ ต่างแสดงความไม่พอใจ พร้อมยืนยันว่าจะมีการยกระดับการประท้วงขับไล่ไปประท้วงถึงระดับจังหวัด และกระทรวงศึกษาจนกว่าผอ.คนนี้จะย้ายออกจากพื้นที่ เพื่ออนาคตของลูกหลาน แต่ถ้ายังไม่เป็นผล ผู้ปกครองอาจจะย้ายลูกหลานออกไปเรียนที่อื่นๆแทน

สำหรับผอ. บอกว่า ขอปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริงตามที่ถูกกล่าวหา ประเด็นเรื่องการเบิกจ่ายเครื่องแบบอุปกรณ์การเรียนประจำภาคเรียน อยู่ในระหว่างดำเนินการแต่ติดขัดตรงที่ครูซึ่งมีรายชื่อในการลงชื่อเบิกจ่ายยังไม่ยอมมาเซ็นชื่อให้จึงทำให้เกิดความล่าช้า ส่วนของเรื่องที่ชาวบ้านตนพร้อมให้เป็นไปตามขบวนการตรวจสอบทางราชการ มีหลักฐานพร้อมชี้แจงไม่ใช่คนไม่มีความผิดแต่กลับบังคับให้ย้ายออกนอกพื้นที่ ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง