แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก หลังเปิดบ้านถล่มไลป์ซิกจนไม่เหลือสภาพ “เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์” เหมาคนเดียว 5 ประตู
การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง เมื่อวันที่ 14 มีนาคม “เรือใบสีฟ้า”แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากอังกฤษ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของไลป์ซิก จากเยอรมนี โดยแมตช์แรกเสมอกันมา 1-1
เกมนี้เจ้าบ้านจัด เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์, แจ๊ก กรีลิช, เควิน เดอ บรอยน์ ลงสนาม ส่วนทีมเยือนนำโดย ติโม แวร์เนอร์, โดมินิก โซบอสไล, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก
นาที 11 โอกาสเป็นของแมนฯ ซิตี้ นาธาน อาเก วางบอลจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ สปีดแซงกองหลังเข้าไปจิ้มติดเซฟ ยานิส บลาสวิก ที่ออกมาปิดมุมได้ไว
นาที 20 ผู้ตัดสินดูวีเออาร์ย้อนหลังเพื่อดูจังหวะที่บอลโดนแขน เบนยามิน เฮนริกส์ ในเขตโทษไลป์ซิก ก่อนจะเป่าว่าเป็นการแฮนด์บอลและให้จุดโทษแมนฯ ซิตี้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ สังหารเสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด เจ้าบ้านนำ 1-0
นาที 24 สกอร์กลายเป็นแมนฯ ซิตี้นำห่าง 2-0 เควิน เดอ บรอยน์ ยิงจากนอกเขตโทษ บอลไปชนคานแล้วตกมาเด้งพื้นเข้าทาง เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ โหม่งซ้ำเข้าประตูไป
นาที 31 ยังคงเป็นแมนฯ ซิตี้ที่ได้ลุ้นอีก แจ๊ก กรีลิช แทงบอลเข้าพื้นที่ว่างในเขตโทษให้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ปราดมายิงเต็มข้อ ยานิส บลาสวิก โชว์หนึบทุบออกไปได้
นาที 39 แมนฯ ซิตี้ได้ฟรีคิกระยะไกล เควิน เดอ บรอยน์ ฉวยโอกาสที่แนวรับเผลอจ่ายเร็วให้ อิลคาย กุนโดกัน หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ก็เจอ ยานิส บลาสวิก เซฟเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
นาที 45+2 จากลูกเตะมุมเปิดเข้ากลาง รูเบน ดิอาส ขึ้นโขกบอลชนเสาแล้วกระดอนไต่บนเส้น อมาดู ไอดารา เตะสกัดก็ติด เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ บอลกระดอนสู่ก้นตาข่าย กลายเป็นแฮตทริกของฮาลันด์ และแมนฯ ซิตี้นำเมื่อจบครึ่งแรก 3-0
ครึ่งหลังนาที 49 แจ๊ก กรีลิช ครองบอลทางด้านซ้ายของเขตโทษ ก่อนจะจ่ายไปบริเวณหน้าเขตโทษให้ อิลคาย กุนโดกัน ล็อกหลบคู่แข่งเข้าไปยิงในพื้นที่เขตโทษตุงตาข่าย แมนฯ ซิตี้นำไปไกล 4-0
นาที 53 เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ โหม่งบอลติดเซฟ ยานิส บลาสวิก กระฉอกออกมา มานูเอล อาคันจี พยายามใช้ขาตวัดบอลเพื่อยิงซ้ำ บลาสวิกตบบอลออกมาเข้าทางฮาลันด์ยิงอีกทีคราวนี้ไม่พลาด สกอร์กลายเป็น 5-0
นาที 57 แมนฯ ซิตี้ยังไม่เพลาเกมรุก จอห์น สโตนส์ เปิดจากฝั่งขวามาบริเวณเสาแรก ริยาด มาห์เรซ ชิงจังหวะขึ้นโขกบอลตรงกรอบ ยานิส บลาสวิก ยังเซฟไว้ได้
แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ริยาด มาห์เรซ เตะจากฝั่งขวาแบบกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู บอลหลุดมาถึง ยานิส บลาสวิก ผวาปัดออกมาไม่พ้นอันตราย เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ จึงยิงเข้าไปเป็น 6-0
นาที 90+2 ตาข่ายไลป์ซิกถูกทะลวงอีกครั้ง ริยาด มาห์เรซ จ่ายบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ แต่งแล้วยิงจากนอกเขตโทษ บอลลอยผ่านมือนายทวารเข้าไปสวยงาม จบเกมแมนฯ ซิตี้ชนะ 7-0 ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยผลรวม 8-1
ส่วนอีกคู่ ปอร์โต จากโปรตุเกส เปิดสนามเอสตาดิโอ โด ดราเกา รับการมาเยือนของ “งูใหญ่”อินเตอร์ มิลาน จากอิตาลี เกมแรกอินเตอร์ชนะมาก่อน 1-0
เกมนี้ตลอด 90 นาทีไม่มีประตูเกิดขึ้น โดยปอร์โตโชคไม่ดีมีโอกาสลุ้นแต่บอลก็ชนเสา, ชนคาน และถูกสกัดจากปากประตู แถมต้องมาเหลือ 10 คน เอดูอาร์โด เปเป ถูกไล่ออกนาที 90+7 ทำให้จบด้วยผลเสมอ 0-0 เป็นอินเตอร์ที่เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยผลรวม 1-0