อ. เจษฎา ชี้ เคสชายหญิงดับคารถ เพราะได้รับก๊าซพิษ คาร์บอนมอนอกไซด์

Home » อ. เจษฎา ชี้ เคสชายหญิงดับคารถ เพราะได้รับก๊าซพิษ คาร์บอนมอนอกไซด์

อ.เจษ จอดรถนอนตาย

ญาติเตรียมรับศพ ชายหญิงจอดรถนอนริมถนน ก่อนดับคารถ อ. เจษฎา ชี้ ที่เสียชีวิตเพราะได้รับก๊าซพิษ คาร์บอนมอนอกไซด์

จากกรณีที่ตำรวจ สน. คลองตัน ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในรถนั่งส่วนบุคคล 2 ราย โดยจากการตรวจสอบภายในรถพบผู้เสียชีวิต 2 ราย แบ่งเป็นหญิง 1 คนและชาย 1 คน นอนเสียชีวิตอยู่ภายรถที่บริเวณด้านหน้า ตรงเบาะคนขับและที่นั่งข้างคนขับรถ จากการสันนิษฐานคาดว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ทั้งคู่น่าจะสตาร์ทรถนอน แล้วขาดอากาศหายใจ เนื่องจากตรวจสอบเกน้ำมันรถพบว่ารถน้ำมันหมด รวมถึงไม่พบบาดแผลบนตัวของทั้งคู่

ทางด้าน พันตำรวจเอก วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผู้กำกับการ สน.คลองตัน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อว่าไม่ได้เป็นการฆ่าตัวตาย แต่เป็นเพราะขาดอากาศหายใจ เนื่องจากเข้าไปนอนในรถที่ปิดกระจกมิดชิดแล้วสตาร์ทเครื่องเปิดเครื่องปรับอากาศ ทิ้งไว้ โดยพบว่าหลังเลิกงานจากร้านอาหาร ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ได้เข้าไปนอนพักในรถยนต์ ตั้งแต่เวลาตี 3 ของวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา จนกระทั่งมีญาติผู้เสียชีวิตไปพบศพในช่วงค่ำวันเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการผ่าชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ เพื่อทราบสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งจะนำไปประกอบสำนวนคดีต่อไป นั้น

  • ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สลด! ชายหญิง สตาร์ทรถจอดนอนริมถนน สุดท้ายขาดอากาศหายใจ ดับคู่

ล่าสุด รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก  Jessada Denduangboripant ถึงสาเหตุกการเสียชีวิตเบื้องต้นของ ชายหญิงคู่นี้ ระบุว่า เคส “นอนเปิดแอร์ เสียชีวิตคารถ” อันนี้ ก็น่าจะจากการได้รับก๊าซพิษ คาร์บอนมอนอกไซด์ อีกล่ะครับ..

สาเหตุการเสียชีวิต (ซึ่งต้องรอการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจากแพทย์ด้วย) ผมคิดว่า ก็คงคล้ายกับรายอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ คือได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (carbon monoxide) หายใจเข้าไประหว่างที่หลับ เม็ดเลือดแดงทำงานผิดปรกติ ร่างกายขาดก๊าซออกซิเจน จนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้คำว่า “ขาดอากาศหายใจ” ที่ทำให้เข้าใจผิดไปว่า ในรถ ไม่มี “อากาศ” เหลือให้หายใจ

S 13525088-1

ลักษณะตามข่าวดังกล่าวนี้ ผมเชื่อว่า น่าจะมาจากการได้รับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ที่มาจากเครื่องยนต์ที่สันดาปเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่างไม่สมบูรณ์ รั่วซึมเข้ามาในห้องโดยสารรถ ซึ่งไม่ได้เปิดกระจกระบายอากาศไว้ ทำให้ก๊าซเป็นพิษต่อเลือด และเสียชีวิตได้ในที่สุด

ข้อมูลจากโรงพยาบาลรามาธิบดี อธิบายเรื่อง “ทำไมเปิดแอร์นอนในรถยนต์ถึงเสียชีวิต?” ไว้ว่า โดยปกติ ขณะที่รถยนต์ขับเคลื่อนไปบนท้องถนน จะมีการไหลเวียนของอากาศภายนอกและภายในอยู่เสมอ ด้วยการถ่ายอากาศเสียออกทางท่อไอเสีย แล้วรับอากาศที่ดีเข้ามา

แต่ถ้าหากรถยนต์จอดสนิท แล้วติดเครื่องเอาไว้ เครื่องยนต์จะเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ และทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ขึ้น โดยไม่มีการถ่ายเทออกไป อากาศเสียก็จะวนเวียนอยู่ภายใน ไม่ไปไหน ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย

เพราะก๊าซชนิดนี้จะไปแย่งออกซิเจนจับตัวกับเม็ดเลือดแดง ซึ่งจับได้ง่ายกว่าออกซิเจนหลายเท่า ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปยังเนื้อเยื่อไม่เพียงพอ ร่างกายจะขาดออกซิเจน และอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ เกิดอาการเลือดเป็นกรด ทำงานไม่ปกติ ซึม ชัก และเสียชีวิตในที่สุด

โดยระดับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายจะอยู่ที่ 1-200 ppm เมื่อได้รับเข้าไปในเวลา 4 ชั่วโมง ร่างกายจะเริ่มอ่อนเพลีย ปวดเมื่อย และเวียนศีรษะ จากนั้นจะอยากนอน ซึ่งถ้านอนเปิดแอร์โดยไม่ดับเครื่องยนต์ก็จะยิ่งส่งผลเสียและเป็นอันตรายถึงชีวิต

S 13525081

สภาพของรถยนต์ ส่งผลต่อการเกิดก๊าซชนิดนี้ด้วยเช่นกัน โดยในรถยนต์เก่าหรือไม่มีการตรวจสภาพ จะเกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ สูงกว่าในรถยนต์ใหม่ หรือผ่านการตรวจสภาพอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ได้สูงกว่า อัตราการเสี่ยงของการเสียชีวิตจากการเปิดแอร์นอนจะสูงกว่า

แต่ ไม่ว่าจะรถยนต์เก่าหรือใหม่ ก็ไม่ควรเปิดแอร์นอนหลับในรถยนต์ขณะที่จอดสนิทอยู่ดี เพราะก๊าซชนิดนี้ไม่มีสีและไม่มีกลิ่น ทำให้ไม่มีทางรู้ตัวเลยว่าได้รับก๊าซชนิดนี้เข้าไปมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะขณะหลับ

ดังนั้น จึงไม่ควรนอนหลับในรถยนต์ที่ติดเครื่องยนต์ไว้ หรือหากจำเป็นต้องนอนจริงๆ ก็ให้เลือกจอดรถในพื้นที่โล่ง ที่อากาศถ่ายเทได้ และควรตั้งปลุกเวลานอน ให้งีบพักเพียงแค่ 15-20 นาที พอให้หายเหนื่อย อย่านอนหลับยาวครับ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ