เรียกได้ว่ายังคงมีกระแสมาไม่หยุดทั้งด้านดี และด้านเสีย กับ อาจารย์น้องไนซ์ นิรมิตเทวาจุติ เด็กน้อยวัย 8 ขวบ ที่ทางครอบครัวนั้นคิดว่า น้องไนซ์ มีพลังสามารถเชื่อมจิตคุยกับเทพหรือพระพุทธเจ้าได้ อีกทั้งยังมีความเชื่อว่า น้องไนซ์ มีความชื่นชอบในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา เป็นเทพลงมาจุติ
นอกจากนี้ อ.น้องไนซ์ยังมีการจัดทำ คอร์สสอนเชื่อมจิต ขึ้นมา เพื่อให้ลูกศิษย์ที่นับถือ นั้นเรียนรู้การเชื่อมจิตและพูดคุยกับองค์เทพที่ตนเองเคารพได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น น้องไนซ์ ได้กล่าวว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อมจิตได้ ต้องขึ้นอยู่กับบุญกรรมและสมาธิของแต่ละคนอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข่าวออกมามากมาย อ.น้องไนซ์กลับโดนทัวร์ลงไม่หยุดหย่อน
- ชาวเน็ตเริ่มสงสัย? ขุดคลิป อ.น้องไนซ์ หมดแรง ‘เชื่อมจิต’ ไม่ไหวแล้ว
- อ.น้องไนซ์ อิงหลักธรรม แท้จริงแล้ว ‘การเชื่อมจิต’ มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎก?
- สั่งสอบ! พ่อแม่ อ.น้องไนซ์ หากเข้าข่ายหลอกลวง ลงดาบยกครัวทันที
กระทั้งล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก นิรมิตเทวาจุติ ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุว่า “ในวันที่ 29 เมษายน 2567 เวลา 09.30 น. กลุ่มนิรมิตเทวาจุติพร้อมด้วยทนายธรรมราช จะเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ พณ ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล
ในกรณีที่สื่อสารมวลชน และสื่อสารสนเทศประเภทใด ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของอาจารย์น้องไนซ์ และนำเสนอเนื้อหาอันเป็นเท็จทั้งหมด หรือบางส่วน กล่าวหาอาจารย์น้องไนซ์ว่าอ้างตนเองเป็นพระพุทธเจ้ามาเกิด ซึ่งไม่เป็นความจริง และลงข้อความอันเป็นเท็จ กล่าวหาว่าพระสงฆ์ที่อยู่ในผ้าเหลือง หรือครองสมณเพศ ว่ามาก้มกราบอาจารย์น้องไนซ์ จนเป็นเหตุให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาด่าทออาจารย์น้องไนซ์และครอบครัวพร้อมทีมแอดมินนิรมิตเทวาจุติ ในทางเสียหายต่างๆนาๆ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จอีกเช่นเดียวกัน การกระทำดังกล่าวของสื่อสารมวลชนทำให้อาจารย์น้องไนซ์และครอบครัว และทีมนิรมิตเทวาจุติถูกสังคมเข้าใจผิด จึงถูกด่าทอต่างๆนาๆ สาเหตุก็มาจากการนำเสนอข่าวอันเป็นเท็จของสื่อสารมวลชน ที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการให้ประกอบกิจการสื่อ
นอกจากนี้ผู้ประกอบกิจการสื่อบางราย (ย้ำว่าบางราย) ยังมีการนำเสนอข่าว และจัดรายการนั่งคุยสนทนากัน ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จทั้งหมดหรือบางส่วน ทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคม ใช้สื่อเป็นเครื่องมือเอื้อฝ่ายตนโจมตีฝ่ายตรงข้ามนำเสนอข่าวหรือเนื้อหารายการในแง่มุมเดียวในเรื่องเท็จทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง ชี้นำทางความคิดด้วยเรื่องราวอันเป็นเท็จ ทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคม สถาบันครอบครัวเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ไร้จรรยาบรรณการประกอบวิชาชีพสื่ออย่างเห็นได้ชัด
ด้วยเหตุนี้กลุ่มนิรมิตเทวาจุติพร้อมด้วยทนายธรรมราชจึงมีความประสงค์ยื่นเรื่องราวร้องเรียนร้องทุกข์ต่อนายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้ท่านนายกรัฐมนตรี และผู้มีอำนาจในบ้านเมืองที่เกี่ยวข้อง ได้มีมาตรการในการควบคุมพฤติกรรมของสื่อ และวางแนวทางในการออกกฎหมายควบคุมเอาผิดสื่อสารมวลชนที่นำเสนอข่าวนำเสนอเรื่องราวอันเป็นเท็จทำให้สังคมรับข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน เป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งกันขึ้นเป็นวงกว้างในสังคม สาเหตุก็จากการกระทำ การนำเสนอข่าวเท็จของสื่อสารมวลชน รวมทั้งขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้ตั้งคณะทำงานเพื่อการปฏิรูปการทำงานของสื่อสารมวลชนขึ้นด้วย ทั้งนี้กรณีที่สื่อนำเสนอข่าวอันเป็นเท็จ ต้องขอให้นายกรัฐมนตรีได้โปรดมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียกสื่อสารมวลชน หรือเจ้าของช่องรายนั้น ที่นำเสนอข่าวเท็จมาลงโทษตามกฎหมายและกฎระเบียบของทางราชการด้วย
จึงเรียนมาเพื่อทราบอย่างทั่วถึงกัน นิรมิตเทวาจุติ ทนายธรรมราช”