หนุ่มใหญ่ อ้างแค้นแฟนสาว วัย 22 ปี ตีตัวออกห่าง ขับกระบะบุกจ่อยิงขณะยืนขายลูกชิ้นปิ้งหน้าร้าน ในพื้นที่ จ.อุทัยธานี ก่อนติดต่อเข้ามอบตัว
วันที่ 2 พ.ค.2566 ร.ต.อ เอกชลิต หนุนพงษ์ ร้อยเวร สภ.ลานสัก เปิดเผยว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงคนบาดเจ็บสาหัส บริเวณริมถนนคอนกรีต เข้าหมู่ 4 ต.ทุ่งนางาม ติดต่อหมู่ 12 บ้านทุ่งเศรษฐี ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสักจ.อุทัยธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน สภ.ลานสัก
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บชื่อ น.ส.อารียา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี สภาพถูกยิงบริเวณหน้าอกและใบหน้า บาดเจ็บสาหัสบริเวณโต๊ะกลมขายของหน้าบ้าน โดยญาติ ๆ ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลลานสัก ก่อนจะถูกส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลอุทัยธานี ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายกิตติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ชาวจ.ปทุมธานี หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป
ต่อมากลางดึกนายกิตติได้ขับรถกระบะสีแดง ทะเบียน ปม3908 กทม. คันที่ก่อเหตุ พร้อมอาวุธปืนขนาด .38 แบบไทยประดิษฐ์เข้ามามอบตัว โดยมีผู้ใหญ่บ้านช่วยเกลี้ยกล่อมพูดคุยกับนายกิตติ อยู่ระหว่างเสียใจนั่งเพ้อว่ารักแฟนสาวมาก กลัวแฟนสาวตีตัวออกห่าง จึงได้ใช้อาวุธปืนมาก่อเหตุ ระหว่างเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำตัวมาที่ สภ.ลานสัก เพื่อสอบปากคำต่อไป
จากการสอบถาม น.ส.น้ำเพชร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี พี่สาวของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่ในเหตุการณ์ โดยเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ของวันที่ 1 พ.ค. ตนและน.ส.อารียากำลังยืนปิ้งลูกชิ้นขายกันอยู่ที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นนายกิตติได้ขับรถกระบะสีแดงมาจอด โดยทำท่าทีมาสั่งลูกชิ้น แต่มือกุมอยู่ที่กระเป๋า ซึ่งพวกตนไม่ทราบว่ามีปืนมาด้วย
น.ส.น้ำเพชร กล่าวต่อว่า ต่อมาผู้ก่อเหตุถามว่ามีอะไรเหลือบ้าง น.ส.อารียาบอกว่าเหลือแต่น้ำ เนื่องจากลูกชิ้นนั้นมีคนสั่งจองไว้หมดแล้ว คล้ายกับผู้ก่อเหตุไม่พอใจ เดินไปเปิดถังน้ำแข็งดูลูกชิ้น สักพักก็ได้หยิบปืนออกมาจากกระเป๋าแล้วยิงน.ส.อารียาไปที่หน้าอกและบริเวณใบหน้า พร้อมกับเรียกญาติ ๆ มาช่วยนำส่งโรงพยาบาล ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุกับน.ส.อารียาเคยคบหากัน ตั้งแต่ปี 64 หลังจากนั้นเริ่มห่างและก็เลิกรากันไปแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลานสัก ได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุพร้อมผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพ เนื่องจากที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่า ที่ทำไปเพราะรักแฟนสาวมาก ไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากที่ผ่านมาแฟนสาวนั้นคบหาคุยกับคนอื่น จึงเกิดความแค้นจึงได้ลงมือก่อเหตุ ก่อนนำตัวผู้ก่อเหตุดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป