อ่านไม่ผิด “เค้กอายุ 77 ปี” จากพิธีสำคัญระดับโลก “ยังกินได้” เพราะมีส่วนผสมสำคัญ 2 ชนิด ชายจีนทุ่มเงินประมูล 1.3 แสน
โดยปกติแล้ว อายุการเก็บรักษาเค้กในท้องตลาดมักจะสั้นมาก แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ซื้อชาวจีนได้ใช้เงินถึง 3,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.3 แสนบาท) เพื่อประมูลเค้กอายุ 77 ปี โดยมีข่าวลือว่าเค้กชิ้นนี้มาจากงานแต่งงานของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ
ตามรายงานของ “เดอะ ไทม์ส” สื่อในสหราชอาณาจักร ผู้ซื้อชาวจีนรายหนึ่งได้ใช้เงิน 3,000 ปอนด์ ในการประมูลเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อซื้อเค้กอายุ 77 ปี ทำให้หลายคนสงสัยว่าเหตุใดเค้กที่เก็บไว้นานขนาดนี้ยังสามารถนำมาขายหรือประมูลได้ในราคาสูงเช่นนี้ ปรากฏว่าเค้กนี้มาจากงานแต่งงานของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป โดยผู้ที่ได้รับเค้กนี้ไม่ใช่บุคคลธรรมดาทั่วไป
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1947 สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิปได้จัดงานแต่งงานแห่งศตวรรษที่พระราชวังบัคกิงแฮม โดยมีแขกผู้มีชื่อเสียงทั้งทางการเมืองและธุรกิจจากทั่วโลกเข้าร่วม งานแต่งงานในครั้งนั้นจัดอย่างอลังการ รวมถึงเค้กแต่งงานที่น่าทึ่ง เค้กนี้ออกแบบโดยเฟรเดอริก สแตง หัวหน้าฝ่ายออกแบบขนมของบริษัท McVitie & Price ในเวลานั้น เค้กมี 4 ชั้น สูงประมาณ 2.7 เมตร และมีน้ำหนักถึง 226 กิโลกรัม
ในขณะนั้น ด้านข้างของเค้กตกแต่งด้วยตราประจำพระองค์ของเจ้าหญิงและเจ้าชาย และสองชั้นล่างแสดงฉากชีวิตของทั้งสอง ทักษะการทำเค้กมีความละเอียดอ่อนมาก ส่วนผสมที่ใช้ทำเค้กประกอบด้วยผลไม้จากออสเตรเลียและเหล้ารัมและบรั่นดีจากแอฟริกาใต้ โดยใช้ไข่ถึง 700 ฟอง ในตอนนั้นถูกเรียกว่า เค้กหมื่นไมล์ ( the 10,000-mile wedding cake) เพราะส่วนผสมของเค้กบินตรงมาจากออสเตรเลียและแอฟริกาใต้
หลังจากงานแต่งงาน เค้กแต่งงานนี้ถูกตัดเป็น 2,000 ชิ้น และแจกจ่ายให้แก่แขก 146 คน รวมถึงการกุศล โรงพยาบาล โรงเรียน และองค์กรอื่น ๆ
มีรายงานว่าเค้กที่ถูกประมูลและซื้อโดยผู้ซื้อชาวจีนในครั้งนี้ เดิมทีเคยเป็นของ มาริออน พอลสัน ผู้ดูแลพระราชวัง Holyroodhouse ในเอดินเบอระ ประเทศสกอตแลนด์ แต่เขาไม่ยอมรับประทานและเก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางใต้เตียง โดยเดิมทีเค้กชิ้นนี้ตั้งราคาไว้ที่ 650 ปอนด์ แต่ในครั้งนี้ ผู้ซื้อชาวจีนได้ซื้อไปในราคา 3,000 ปอนด์ รายงานระบุว่า ผู้จัดการประมูลกล่าวว่า เค้กนี้มีการใส่เหล้ารัมและบรั่นดีเข้มข้น ซึ่งช่วยให้เค้กเก็บรักษาไว้ได้นานและยังสามารถรับประทานได้ แต่พวกเขากล่าวว่า “คุณกินได้แต่เราไม่แนะนำ”