จากกรณีกรมสุขภาพจิต ประกาศยุติบทบาท อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ในฐานะทูตสุขภาพจิต โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถดำเนินภารกิจที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง และสร้างความไม่สบายใจแก่ประชาชนได้ จึงปรึกษาหารือกับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ พร้อมขอยุติบทบาทภารกิจทูตด้านสุขภาพจิต
- กรมสุขภาพจิตปลด อแมนด้า MUT2020 พ้นตำแหน่งทูต อ้างประชาชนไม่สบายใจ
ต่อมา มูลนิธิกระจกเงา ได้เชิญ อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม ร่วมงานผ่านโครงการผู้ป่วยข้างถนน ในฐานะอาสาสมัครทูตสื่อสารสังคม
ล่าสุด (23 มี.ค.64) มูลนิธิกระจกเงา ได้เผยแพร่ภาพของ อแมนด้า ที่ร่วมลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชเร่ร่อนรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเคสแรกหลังจากถูกปลดจากการเป็นทูตสุขภาพจิต โดยระบุว่า “วันนี้ทางทีมโครงการผู้ป่วยข้างถนนได้ร่วมกับทางคุณอแมนด้า ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยจิตเวชเร่ร่อนคนหนึ่งเข้ารับการรักษา เป็นคนหนึ่งที่ต้องอยู่ในสภาพผู้ป่วยจิตเวชมานานเป็น 10 ปี อยู่ในสภาพชีวิตที่ย่ำแย่มาเป็น 10 ปี
อแมนด้า เปิดใจว่า “ด้าเองรู้สึกว่าทำไมต้องรอถึง 10 ปีเลย ทำไมมันต้องใช้เวลานานขนาดนั้น และยิ่งถ้าเป็นผู้ป่วยจิตเภท ถ้าเขาได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ มันจะดีขึ้นกว่านี้ไหม ทั้งอาการจิตเวช และสภาพชีวิต ทำไมคนแถวนั้นไม่เห็นเขาเลย ทำไมไม่มีใครร้องขอความช่วยเหลือให้เขา นั่นคือความรู้สึกของด้านะคะ เค้าเหมือนมนุษย์ล่องหนเลยไม่มีใครเห็นคุณค่าเขาเลย
เราเป็นมนุษย์ด้วยกันนะ แล้วเราเห็นเขาอยู่ข้างถนน ทำไมเราปล่อยให้เขาอยู่ในสภาพแบบนี้ได้ ทำไมไม่มีใครเรียกร้องสิทธิความเป็นมนุษย์ให้กับเขา เรารู้สึกว่าเราเป็นคนหนึ่งในสังคมเราพลาดอะไรไปเยอะมาก ไม่ใช่แค่เรา แต่หลายๆ หน่วยงานด้วย ไม่มีใครเห็นเขากันเลย
แล้วคิดดูว่าถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้นกับคนรอบข้าง หรือตัวเราเอง เราจะรู้สึกอย่างไร คนที่เรารักอยู่ตรงนี้แบบนี้มา 10 ปี โดยที่ไม่มีใครขอความช่วยเหลือให้กับเขา แล้วมันเป็นเรื่องไม่ไกลตัวด้วยนะคะ เรื่องจิตเวช เรื่องสุขภาพจิต แล้วถ้ามันเกิดขึ้นกับเราล่ะ ถ้าเราต้องตกไปอยู่ในสภาพแบบนั้น แล้วไม่มีใครช่วยเหลือเราเลย
“พอผู้ป่วยได้รับความช่วยเหลือแล้ว เราก็รู้สึกโล่งใจค่ะ ตอนได้เห็นคุณลุงนั่งรอแพทย์ตรวจ ก็รู้สึกว่าเขาจะได้รับการรักษาแล้ว เขาควรที่จะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องสักที ควรอยู่ในมือแพทย์พยาบาล และหน่วยงานที่จะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น การรักษาอย่างถูกต้อง จะให้ความเป็นมนุษย์ของเขากลับคืนมา ด้ารู้สึกโล่งใจ แล้วเราก็มองไปที่ผู้ป่วยจิตเวชเร่ร่อนคนอื่นๆ ว่าไม่มีใครควรตกอยู่ในสภาพชีวิตที่แย่ที่สุดแบบนี้อีกเหมือนกัน”
มูลนิธิกระจกเงา ระบุว่า ผู้ป่วยจิตเวชเร่ร่อนมากกว่า 10 ปีได้เข้ารับการรักษาแล้ว ขอขอบคุณ อแมนด้า มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ที่ได้มาทำงานร่วมกับทางโครงการผู้ป่วยข้างถนน ในฐานะอาสาสมัครและเป็นเสียงสำคัญที่จะส่งต่อเรื่องผู้ป่วยข้างถนนไปได้อีกกว้างไกล
แจ้งพบผู้ป่วยข้างถนนได้ที่เฟซบุ๊ก โครงการผู้ป่วยข้างถนน มูลนิธิกระจกเงา สนับสนุนการช่วยเหลือผู้ป่วยข้างถนน ได้ที่โครงการผู้ป่วยข้างถนน โดยมูลนิธิกระจกเงา ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 202-2-58289-4