ในโลกฟุตบอลตอนนี้ ไม่มีข่าวใดจะได้รับความสนใจไปกว่า การเทคโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด โดยกลุ่มทุนจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่จะมีโอกาสเปลี่ยนทีมฟุตบอลแดนเหนือของอังกฤษให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง
แต่คำถามหนึ่งที่หลายคนอาจจะสงสัยอยู่ในใจนั่นคือ เหตุใดต้องเป็นนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด? ทำไมไม่ไปเทคโอเวอร์สโมสรอื่น เพราะด้วยทรัพย์สินมหาศาลของกลุ่มทุนซาอุฯ แทบจะเรียกได้ว่าสามารถซื้อได้ทุกทีมฟุตบอลบนโลก
คำตอบอยู่ที่ผู้หญิงชาวอังกฤษนามว่า อแมนดา สเตฟลีย์ หญิงนักธุรกิจชาวอังกฤษวัย 48 ปี ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังดีลการเทคโอเวอร์ที่เกิดขึ้น รวมถึงถือหุ้นของนิวคาสเซิลในปัจจุบันอยู่ 10 เปอร์เซนต์
Main Stand จะพาไปรู้จักผู้หญิงคนนี้ และคุณอาจได้คำตอบว่าเหตุใดกลุ่มทุนซาอุฯ ถึงเลือกนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
สำหรับ อแมนดา สเตฟลีย์ เธอเริ่มทำธุรกิจร้านอาหารที่ประเทศอังกฤษ ตั้งแต่อายุเพียงแค่ 23 ปี ด้วยการยืมเงิน 180,000 ปอนด์ จากธนาคาร หรือประมาณ 8,300,000 บาทไทย นอกจากนี้ เธอยังเป็นนักเล่นหุ้นตัวยง และชอบเข้าสนามม้าเพื่อตีสนิทกับนักลงทุนกระเป๋าหนักอีกด้วย
ด้วยมนุษยสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยม ทำให้ภายในระยะเวลาอันสั้น สเตฟลีย์กลายเป็นแม่ค้าคนกลางที่พานักลงทุนมาเจอกันเพื่อทำธุรกิจ ทำให้เธอได้รับส่วนแบ่งจำนวนมาก และเป็นที่รู้จักของนายทุนมากมาย เพราะใครๆก็มองว่าเธอคือนักเจรจามือทอง
ลูกค้าชั้นดีของสเตฟลีย์ก็คือกลุ่มทุนจากตะวันออกกลาง เธอมีความสนิทชิดเชื้อกับราชวงศ์จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจอร์แดน ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปี
หลังจากนั้น สเตฟลีย์เลือกที่จะลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นด้วยเองกับธุรกิจด้านโทรคมนาคมเมื่อปี 2000 แต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมาเธอตัดสินใจหันมาประกอบอาชีพสำคัญคือเป็นนายหน้าให้กับกลุ่มทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เจรจาธุรกิจไปทั่วโลก
แน่นอนว่าหนึ่งในงานสำคัญที่เธอได้ทำ คือการเป็นนายหน้าเจรจาให้กลุ่มทุนอาบูดาบี ซื้อสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2008 จนเป็นผลสำเร็จ อย่างไรก็ตาม เธอก็เคยเป็นนายหน้าการเทคโอเวอร์สโมสรลิเวอร์พูล ในปี 2008 เช่นกัน ให้กับกลุ่มทุนอื่นจากตะวันออกกลาง ทว่าไม่เป็นผลสำเร็จ
สเตฟลีย์หายจากวงการลูกหนังไปนานหลังจากปี 2008 จนกระทั่งเธอกลับมาอีกครั้งในปี 2020 เพราะได้เป็นพาร์ทเนอร์ราชวงศ์ซาอุดิอาระเบีย ในการเทคโอเวอร์สโมสรนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
แม้ว่าตัวของสเตฟลีย์จะไม่เคยจับงานใหญ่ร่วมกับราชวงศ์ของซาอุฯมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเธอจะแนะนำให้ทางซาอุฯเลือกเทคโอเวอร์สโมสรในบ้านเกิดของเธอ เพราะด้วยความสามารถในการเจรจาที่ยอดเยี่ยม เธอรู้ดีกว่าจะทำอย่างไรให้มีคนยอมขายสโมสรให้กับทางซาอุดิอาระเบีย
คำตอบของคำถามทั้งหมดคือ ไมค์ แอชลีย์ ที่รอให้มีใครสักคนมาซื้อนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากดีลนี้จะเกิดขึ้น
แต่ไม่ใช่แค่นั้น สเตฟลีย์ยังเป็นบุคคลสำคัญที่ทำการเจรจากับทั้งนิวคาสเซิล และพรีเมียร์ลีก เพื่อให้ดีลการซื้อขายนี้เกิดขึ้นจริงให้ได้ โดยเฉพาะการต้องทำให้ปัญหาเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดที่เคยทำให้การเจรจาเมื่อปี 2020 ล้มเหลวให้จบลง และสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ว่ากลุ่มทุนซาอุฯ จะไม่สร้างปัญหาเรื่องนี้ซ้ำให้กับลีกในอนาคต ซึ่งเธอก็สามารถทำได้สำเร็จในที่สุด
แต่การเทคโอเวอร์ครั้งนี้ ต่างจากตอนที่เธอทำงานกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะเธอไม่ได้แค่รับเงิน และจากไป แต่ยังถือหุ้น 10 เปอร์เซนต์ในสโมสร และขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสโมสรคนใหม่ทันที มีหน้าที่ในการดูแลงานภาพรวมของสโมสร รวมถึงมีอำนาจในการปลดและแต่งตั้งผู้จัดการทีม จนถึงซื้อขายนักเตะในทีม
นี่คือเรื่องราวของ อแมนดา สเตฟลีย์ หญิงสาวคนสำคัญที่ทำให้การเทคโอเวอร์สนั่นโลกลูกหนังครั้งนี้เกิดขึ้นจริง และเชื่อว่าหลังจากนี้ เราจะได้ยินชื่อของเธอบ่อยขึ้นแน่นอน