อุ๊งอิ๊ง หอบครอบครัวเพื่อไทย บุกสมุทรสาคร 18 ธ.ค. พบปะผู้ใช้แรงงาน ถกนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท พร้อมเปิดตัวผู้สมัครภาคกลาง
เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2565 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย แถลงจัดงานครอบครัวเพื่อไทย ในจ.สมุทรสาครว่า ครอบครัวเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค และตน จะไปพบปะประชาชน พูดคุยปราศรัยในหัวข้อการยกระดับเศรษฐกิจเดินหน้าค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินตอบแทนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน ที่หอประชุมเอนกประสงค์ เทศบาลนครอ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร ในวันที่ 18 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00-11.30 น.
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า การไปครั้งนี้ เพื่ออธิบายให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานได้เข้าใจ และมีความเชื่อมั่นในนโยบายของพรรคว่าการยกระดับค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 จะต้องเกิดขึ้นด้วยการยกระดับเศรษฐกิจทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างของประเทศ ตั้งแต่ภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อุตสาหกรรมยานยนต์เทคโนโลยี ภาคการส่งออก ภาคการเกษตร
ในทุกภาคส่วนจะต้องได้รับประโยชน์มีผลประกอบการที่เติบโต อยู่ในสถานะพ้นวิกฤตจากที่เป็นอยู่ในช่วง 8 ปี เมื่อระบบเศรษฐกิจขยายตัว มีเสถียรภาพไปในทิศทางที่ชัดเจนแล้ว ทุกภาคส่วนทุกฝ่ายเห็นพร้อมและเหมาะสม ควรจะขยับค่าแรงขั้นต่ำให้ผู้ใช้แรงงานให้เพิ่มมากขึ้นและเติบโตไปด้วยกัน
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า หลังเสร็จสิ้นการปราศรัยแล้ว ทีมครอบครัวเพื่อไทย จะเยี่ยมพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการประมง สหภาพผู้ใช้แรงงานในพื้นที่สมุทรสาคร สมุทรสงครามและใกล้เคียง ตลอดจนพ่อค้าแม่ขายที่ลานเทศบาลนครสมุทรสาคร พร้อมกับแวะสักการะศาลหลักเมืองสมุทรสาครเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งพรรคจะแนะนำตัวผู้ประสงค์ลงสมัคร ส.ส.ในกลุ่มจังหวัดภาคกลางส่วนตะวันตก ได้แก่ จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี นครปฐม โดยจะเชิญให้ผู้ประสงค์ลงสมัครดังกล่าวได้ปรากฏตัวและแนะนำตัวบนเวทีด้วย
ทั้งนี้ พรรคจะอาศัยเวทีปราศรัยดังกล่าวรับฟังปัญหาความทุกข์ร้อน สะท้อนนโยบายความคิดและความเห็นเกี่ยวกับนโยบายของพรรคในทุกแง่มุม โดยมีผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรค พูดคุยและรับฟังปัญหาของทุกคนอย่างใกล้ชิด รวมถึงฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ สหภาพแรงงานและพ่อค้าแม่ค้า และจะนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงนโยบายให้รัดกุม รอบคอบ สมบูรณ์มากขึ้น โดยเฉพาะในโค้งสุดท้ายของการเมืองที่ต้องมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา