เป็นอีกหนึ่งนางเอกสาวที่พัฒนาฝีมือตัวเองมาแบบก้าวกระโดด สำหรับสาวมากความสามารถ อุ้ม-อิษยา ฮอสุวรรณ นางเอกสาวยิ้มสวย ขวัญใจแฟนๆ ที่ตอนนี้กลังฝากฝีไม้ลายมือกับบท “ข้าวหอม” ในละครโรมนติก “รัก นิรันดร์ จันทรา” ทางช่อง 3 เรื่องราวกำลังสนุกเข้มข้น ทำเอาเรตติ้พุ่งแรงไม่เบา

งานนี้ sanook เลยพลาดไม่ได้ต้องคว้าตัสาวอุ้ม มาพูดถึงการพลิกคาแร็กเตอร์จากสาวใสๆ มาเป็นสาวมั่นในผลงานชิ้นนี้ พร้อมกับอัปเดตเรื่องหัวใจกันหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง

เล่าถึงการทำงานใน “รัก นิรันดร์ จันทรา” หน่อย?

“สำหรับเรื่อง รักนิรันดร์จันทรา อุ้มรับบทเป็น ข้าวหอม ค่ะ เป็นกึ่งๆ ผู้ช่วยของ คุณธชา คือ พี่เคน ธีรเดช ซึ่งเขาเป็นแวมไพร์ เขาต้องมีคนคอยดูแลเรื่องความลับ หรือ กิจการต่างๆ ของเขา โดยที่เรากับคุณพ่อก็ดูแลคุณธชาแบบตกทอดรุ่นสู่รุ่นมา”

เจอรุ่นใหญ่อย่าง “เคน ธีรเดช” เป็นยังไงบ้าง?

“พี่เคนน่ารักมาก ตอนแรกอุ้มก็จะเกร็งๆ หน่อย เพราะเราก็เห็นพี่เขาในทีวีมาตลอด แต่ครั้งนี้ได้มาร่วมงานกันก็ดีใจมาก ตัวจริงพี่เคนน่ารัก เป็นคนตลก อุ้มต้องเข้าฉากกับพี่เขาบ่อยด้วย อัธยาศัยดีมากๆ ค่ะ บางทีก่อนเข้าฉากพี่เขาก็คุยเล่นเราก็ขำ พอต้องเข้าฉากพี่เขาเล่นได้ แต่เรายังขำค้างอยู่เลย (หัวเราะ)”

ความยากของการเป็น “ข้าวหอม” คือ อะไรบ้าง?

“ยากที่ว่าคาแร็กเตอร์ข้าวหอมกับตัวอุ้เราต่างกันมากค่ะ ข้าวหอมเขาเป็นผู้หญิงปราดเปรียว เป็นคนเก่งทุกอย่าง อยู่บนส้นสูง 4 นิ้วตลอดเวลา ซึ่งตัวจริงอุ้มไม่เลย ค่อนข้างไปทางซุ่มซ่าม เพราะฉะนั้นก็ต้องทำการบ้านหลายๆ อย่าง ทำตัวให้กระฉับกระเฉงคล่องแคล่วยิ่งขึ้นให้ดูเป็นผู้หญิงเก่ง  อุ้มก็ยังไม่เคยเล่นแบบนี้มาก่อน เคยแต่แบบสดใสแก่นๆ มากกว่าค่ะ”

อุ้ม ในละคร รักนิรันดร์จันทรา

นอกจากเรื่องนี้ก็มีละครอีกที่จะออนแอร์ไล่ๆ กัน?

“ค่ะ แต่อุ้มไม่แน่ใจเรื่องกำหนดวันออกอากาศ ก็มีเรื่อง “เก็บแผ่นดิน”  เรื่องนี้คาแร็กเตอร์ก็ต่างจากรักนิรันดร์ฯ มาก เก็บแผ่นดินจะมีเรื่องของความรัก ความดราม่าเยอะ ดราม่าหนักมากจริงๆ ดีใจนะคะที่ได้เล่นเรื่องนี้ แต่หลังจากความดีใจ คือความกดดันมาก เพราะเวอร์ชั่นก่อนเขาทำไว้ดีมากจริงๆ แถมเวอร์ชั่นนี้นักแสดงในเวอร์ชั่นเก่าแทบทุกคนก็กลับมาเล่นด้วยอีก ท้าทายมากๆ ค่ะ”

“ส่วนอีกเรื่องคือ เรื่อง “ภูติแม่น้ำโขง” อุ้มรับบทเป็น “บัวผัน” ยังไม่แน่ใจว่าออนแอร์เมื่อไหร่ ถ่ายทำกันไปเยอะแล้ว เกินครึ่งแล้วค่ะ  ต้องรอติดตามชมกัน”

เข้าวงการมาสักพักแล้วเป็นยังไงบ้าง?

“โอเค เลยค่ะ อุ้มเข้าวงการตั้งแต่อายุประมาณ 17 มีพี่โมเดลลิ่งเขาไปเจอ แล้วก็ได้เข้ามาที่ช่อง 3 แล้วก็ได้เล่นละครเลย เซ็นสัญญาเลย แบบปุบปับมาก อุ้มก็งงเหมือนกัน (หัวเราะ) เราก็ไม่คิดว่าเราจะได้เข้าวงการ ด้วยความที่อุ้มเป็นเด็กต่างจังหวัด เรื่องในวงการไม่รู้เรื่องเลย รู้จักวงการแค่ผ่านทีวีเท่านั้น ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเล่นละครได้ พอได้ทำจริงๆ คือ สนุกมากๆ ทำให้กลายเป็นว่าอุ้มชอบการแสดงมากๆ ไปเลยค่ะ”

“ตอนแรกมันยากมากสำหรับอุ้มเพราะอุ้มเป็นคนขี้อายมาก ไม่เข้าใจแอคติ้ง  ไม่เข้าใจการแสดง คิดหนักมากว่าเราจะทลายกำแพงตัวเองได้ยังไง แต่พอเราเริ่มออกจากเซฟโซนกลับรู้สึกว่าสิ่งนี้มันสนุก  การที่เราทุ่มเทเพื่อสิ่งๆ หนึ่งไปพร้อมๆ กับทุกคนมันสนุกมากค่ะ แต่ถามว่ายากไหม ยากค่ะ เคยถึงขั้นร้องไห้เลย ร้องไห้เพราะเครียด  กลัวทำไม่ได้ แต่เราก็พยามสู้ค่ะ”

แล้วตอนเด็กฝันอยากเป็นอะไร?

“ตอนเด็กอุ้มชอบวาดรูป ก็เลยสอบเข้ามัณฑนศิลป์ แต่ไม่ได้มีความฝันแบบเฉพาะเจาะจงว่าเราจะต้องทำอาชีพนี้เท่านั้นเหมือนค่อยๆ หาตัวเองไปเรื่อยๆ พอดีบังเอิญได้เข้าวงการบันเทิง ทำแล้วสนุกเลยอยู่ตรงนี้เลย ความสนุกของการแสดงอุ้มว่าการที่เราได้เป็นคนอื่น ได้เป็นตัวละครที่เราได้รับนี่แหละค่ะ”

อุ้ม อิษยา

ซีเรียสแค่ไหนกับคำว่า  “นางเอก”?

“อุ้มไม่ได้ซีเรียสว่าจะได้เป็นนางเอก หรือ ไม่ใช่นางเอกเลยค่ะ อุ้มมองว่าการแสดงไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ พระ นาง ทุกๆ ตัวละครเขามีความน่าสนใจในตัวเขาเอง ไม่ว่าจะบทบาทไหนก็มีความสำคัญในเรื่องอยู่แล้วค่ะ”

“อุ้มว่าทุกวงการ ทุกอาชีพมีความกดดัน มีการแข่งขันสูงมากอยู่แล้ว อุ้มไม่ได้กดดันว่าเราต้องชนะคนอื่นหรือต้องแข่งกับใคร สิ่งเดียวที่กดดันคือ การสู้กับตัวเองนี่แหละค่ะ บทไหนที่เรามองว่ายาก เกินความสามารถก็ต้องพยายามพัฒนาตัวเองไปให้ถึงให้ได้มากกว่าค่ะ”

ความกดดันที่ผ่านมาสำหรับอุ้มเป็นยังไงบ้าง?

“โอ้โห! กดดันทุกเรื่อง แต่ละบทที่อุ้มรับมันยากด้วย ก่อนหน้านี้ก็มีทั้งเรื่องภาษา เรื่องบู๊ต่างๆ ที่ต้องไปเรียนเพิ่ม แต่เมื่อผ่านมาในหลายๆ บทบาทมันเหมือนทลายกำแพงของตัวเองเหมือนกัน จากที่ไม่คิดว่าจะทำได้ก็ได้รู้ว่า โอเค เราทำได้นะ”

“วงการบันเทิงทำให้อุ้มโตขึ้นเยอะ จากเด็กขี้อาย ไม่กล้าพูดกับคนแปลกหน้า เราสามารถเติบโตขึ้นได้กับความรับผิดชอบที่เรามี เราเห็นตัวเองว่าเราโตขึ้นในสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ อุ้มเข้าใจมากๆ สำหรับคนที่ขี้อายมากๆ นะคะ เพราะอุ้มเคยเป็นคนนั้นมาก่อน แต่ที่ทำให้อุ้มกล้าขึ้นเพราะอุ้มบอกตัวเองว่า “เขาไม่ฆ่าเราหรอก” (หัวเราะ) ก็แค่เข้าไปคุยกับเขา เขาไม่ทำอะไรเราหรอก ยิ้มแล้วเข้าไปเลย อุ้มก็ใช้เวลาเป็นปีเหมือนกันกว่าจะชิน”

เคยโดนบูลลี่บ้างหรือเปล่า?

“อุ้มว่าทุกคนเคยมีประสบการณ์อยู่แล้ว เพราะการงานของเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องใช้รูปลักษณ์ภายนอกด้วย อุ้มก็มีเหมือนกันที่มีคนเข้ามาว่า ไม่สวย หรือว่าเราต่างๆ นานา เรื่องแบบนี้มันหลากหลายมุมมองมาก ทุกคนมีมุมมองความสวยในแบบของตัวเองค่ะ”

อุ้ม อิษยา

“จริงๆ อุ้มเป็นคนเซนซิทีฟกับเรื่องคอมเมนต์เหมือนกันนะ เพราะมันกระทบจิตใจเราแน่นอน แต่ก็รู้สึกว่าเราไม่สามารถควบคุมอะไรได้อยู่แล้ว มันคือความคิดเห็นที่เราไม่สามารถไปบังคับใครได้ ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน ไม่ว่าเขาจะติเรา หรือ ชมเรายังไงก็ตาม เราก็เป็นตัวเราที่พยายามพัฒนาตัวเองเสมอค่ะ”

แบ่งการใช้ชีวิตยังไงระหว่าง “พื้นที่ส่วนตัว” และการเป็น “คนของประชาชน” ?

“ถ้าอุ้มไม่ได้เป็นนักแสดงอุ้มก็คงแคร์แค่คนรอบข้าง แต่พอเราเข้ามาตรงนี้ก็คือเป็นคนของประชาชนประมาณนึงเลย ต้องแคร์คนที่เป็นวงกว้างขึ้น ไม่ใช่แค่คิดถึงจิตใจเรา หรือ แค่คนรอบข้างเรา ต้องคิดถึงคนที่เข้ามาเห็นเราในสื่อสาธารณะต่างๆ ด้วย แต่ก็ไม่ได้ทิ้งความเป็นตัวเอง หรือ เรื่องส่วนตัวของตัวเองไปซะทีเดียวค่ะ”

มาเรื่องหัวใจบ้าง มีแฟนหรือยัง?

“อืม … เรียกว่ามีคนสนิทเป็นพิเศษแล้วกันค่ะ คือ เราไม่ได้จำกัดความว่าเรา คือ แฟน อุ้ม พูดชื่อเลยแล้วกัน (หัวเราะ) กับ “พี่ไม้”  (ไม้-วฤษฎิ์ ศิริสันธนะ) เรารู้จักกันมานานแล้ว แล้วได้มาร่วมงานกันในละคร “แก้วกลางดง” หลังจากนั้นก็สนิทกันมากขึ้น จากเรื่องนั้นก็มีแฟนๆ จิ้นเยอะด้วย เขาเป็นพี่ที่เราสบายใจที่สุดที่จะคุยด้วย หรือ จะปรึกษาอะไร ไม่เคยคิดเรื่องคำจำกัดความความสัมพันธ์เลย แต่ถ้าถามว่าเป็นอะไรกันก็เป็นพี่ที่สนิทที่สุดแล้วกัน (หัวเราะ)”

ทำไมเปิดใจสนิทกับ ไม้?

“ตอนทำงานด้วยกันเหมือนเราก็ผ่านอะไรมาด้วยกันเยอะ รวมถึงนักแสดงคนอื่นด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ยาก ลำบาก หรืออะไร มันทำให้ความสนิทของพวกเราเพิ่มขึ้น เขาก็เป็นพี่คนนึงที่เราปรึกษาได้หมดทุกเรื่องเลยค่ะ”

อุ้ม-ไม้

เป็นไปได้มั้ยว่าจะขยับไปเป็นแฟน?

“มันเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ (หัวเราะ) ก่อนหน้านี้ไม่เคยเข้าใจเลยนะ กับการที่คนตอบเรื่องความสัมพันธ์ว่าเป็นเรื่องของอนาคต แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ด้วยความที่อุ้มก็ไม่ได้กดดันตัวเอง หรือ กดดันในความสัมพันธ์ใดๆ อยู่แล้ว ก็จะปล่อยให้มันค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป เลยไม่สามารถระบุได้จริงๆ ว่าเราจะพัฒนาไปได้ถึงขั้นไหน ยังไม่รีบค่ะ”

สุดท้ายฝากถึงแฟนๆ หน่อย?

“ก็ฝากไว้ด้วยนะคะ สำหรับละคร “รักนิรันดร์จันทรา” ทุกคนจะได้เห็นอุ้มในบทบาทที่โตขึ้น เป็นผู้หญิงที่คล่องแคล่วว่องไวขึ้น เรื่องนี้ได้มีแค่ความรีแมนติก แต่ครบรสมากค่ะ ทั้ง ดราม่า แฟนตาซี รวมทั้งเรื่องครอบครัวด้วย ฝากไว้ด้วยค่ะ”

เรียกว่า สวย สดใส เก่ง ครบรสจริงๆ สำหรับสาว “อุ้ม อิษยา” เชื่อเหลือเกินว่าตอนนี้ใครที่ได้เข้ามาสัมผัสผลงานและตัวตนของเธอคงต้องตกหลุมรักเป็นแน่ ยังไงก็อย่าลืมติดตามการเปลี่ยนคาแร็กเตอร์ครั้งนี้ของอุ้มในละคร รักนิรันดร์จันทรา กันเยอะๆ รับรองไม่ผิดหวัง