อุทาหรณ์เหล่าทาส! สาวถูกแมวกัด-ข่วน แผลติดเชื้อ แบคทีเรียกินเนื้อเหวอะ ต้องกรีดเนื้อทิ้ง

Home » อุทาหรณ์เหล่าทาส! สาวถูกแมวกัด-ข่วน แผลติดเชื้อ แบคทีเรียกินเนื้อเหวอะ ต้องกรีดเนื้อทิ้ง
อุทาหรณ์เหล่าทาส! สาวถูกแมวกัด-ข่วน แผลติดเชื้อ แบคทีเรียกินเนื้อเหวอะ ต้องกรีดเนื้อทิ้ง

โลกโซเชียล แห่แชร์เรื่องราว หลังผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ออกมาโพสต์อุทาหรณ์ ถูกแมวที่เลี้ยงเองในระบบปิด แต่ยังไม่ได้พาไปฉีดวัคซีน กัดและข่วนหลังเท้าจนแผลติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อ

โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ ที่ใช้ชื่อว่า เม ได้โพสต์เรื่องราวเมื่อวันที่ 27 พ.ค.64 ที่ผ่านมา

“เตือน เตือน เตือน เนื้อหาและภาพต่อจากนี้มีความรุนแรง ใครที่จิตอ่อนเห็นเลือดแผลไม่ได้ขอให้ข้ามทวิตนี้ไป ทวิตนี้จะโพสต์เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนภูมิต่ำ เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ทวิตทั้งหมดนี้เกิดขึ้นใน 1 เดือนที่ผ่านมาของเม อยากมาโพสต์แบ่งปันเรื่องราวโรค รักษา การดูแล

เมื่อวันที่ 15 เมษายน เราได้รับบาดเจ็บจากแมวกัดและข่วน (เลี้ยงระบบปิดแต่ยอมรับว่ายังไม่ได้พาไปฉีดยาน้อง) เมโดนค่อนข้างลึกคือเขี้ยวน้องกัดจมเลย อย่างแรกที่ทำคือ รีบเข้าห้องน้ำล้างสบู่เพราะเท้าเปื้อนเยอะมาก จากนั้นทาด้วยแอลกอฮอล์ล้างแผลและเบตาดีน 

เราชะล่าใจคิดว่าไม่น่าเป็นอะไร จนเข้าวันที่ 2 ช่วงดึกๆ เท้าเริ่มบวม วันที่ 3 เท้าบวมมาก เดินไม่ค่อยได้จึงเดินทางไปโรงพยาบาลช่วงกลางวัน หมอแจ้งว่าติดเชื้อได้ให้ยาปฎิชีวะมาทาน และนัดอีก 3 วัน แต่ในวันเดียวกันดึกๆ เราปวดแสบร้อนเท้ามาก เหมือนไฟไหม้ เท้าเริ่มบวมมากเลยกลับไปโรงพยาบาลช่วง 4 ทุ่ม

หลังจากนั้นก็แอดมิทที่โรงพยาบาลเพราะเราเริ่มมีไข้ (ได้ตรวจโควิดและผลเป็นลบ) หลังจากนั้นใส่น้ำเกลือและนอนโรงพยาบาล วันต่อมา คุณหมอได้มาตรวจ ได้ให้ยาปฏิชีวนะเข้าเส้นเลือดเพื่อดูอาการ ช่วงนี้คือนอนยกขาสูง เมไม่ได้ถ่ายภาพไว้นะคะ ได้รับการรักษาดูอาการ 3 วันเท้ายิ่งแย่กว่าเดิม

คือช่วงที่นอน 3 วันนั้นมีอาการปวดเท้า ปวดแสบปวดร้อนมากๆ ได้รับยาปฎิชีวนะทั้งแบบฉีดและทาน แต่เท้ายังบวมเรื่อย ๆ มีจ้ำม่วงๆ รอบแผลที่โดนกัด คือรอยจ้ำม่วงมันเกิดขึ้นเร็วมาก จนหมอตัดสินใจว่าจะให้เข้ารับการผ่าตัดครั้งแรกเพื่อกรีดระบายหนอง ตอนผ่าใช้ยาบลอคหลังไว้ รู้สึกตัวตลอด

18 เม.ย.64 หลังจากผ่าตัด ช่วงดึกเราปวดเท้ามาก แบบยาแก้ปวดไม่ช่วยเลยเพราะยาบล็อคหลังหมดฤทธิ์แล้ว เราร้องทั้งคืน คือ เจ็บปวดเท้ามากโดยที่เราเองไม่รู้ว่าแผลเป็นยังไงบ้างเพราะผ้าพันไว้ จนเช้าวันต่อมา หมอมาเปิดแผลให้ เราช็อกเลย นี่คือสภาพเท้าเรา แม่เราเกือบเป็นลมเลยค่ะ

หมอได้อธิบายโรคที่เราเป็นคือ แบคทีเรียกินเนื้อ เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อของน้ำลายสัตว์ โดยแผลจะติดเชื้อมีหนองแทรกเนื้อ และบริเวณนั้นแบคทีเรียจะกินเนื้อเราจนเป็นเนื้อตายที่รักษาไม่ได้ ต้องทำการตัดทิ้งทั้งหมดก่อนที่จะลาม การรักษาคือกรีดระบายหนอง

เราดิ่งที่สุดของช่วงชีวิตเลย ยิ่งกว่าตอนผ่าหมอนรองกระดูก คือความเจ็บปวดให้ 100,000/10 เลยค่ะ เราต้องทำแผลเป็นเวลา 10 วัน และฉีดยาปฎิชีวนะเข้าเส้นทุก 4 ชั่วโมง 10 วันมียาตัวหนึ่งที่แรงมาก แสบเส้นเลือดตลอดเวลา มีผลข้างเคียงคือคลื่นไส้ อารมณ์แปรปรวน เราเลยเขียนไว้ตอนตีสาม

หลังจากนั้นวันที่ 11 เราไม่มีหนองอีกแล้ว ข่าวดีได้รับการผ่าตัดครั้งที่ 2 คือการตัดเนื้อตายสีดำทั้งหมด เนื้อที่เห็นคือตายหมดแล้ว มีความดำ เหี่ยวมากขึ้นทุกวัน หมอเลยตัดเป็นรูปตัววี จากนั้นนอนโรงบาลทำแผลสดอีก 3 วันเลยได้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน ตอนนั้นรวมการรักษาตัวทั้งหมด 13 วัน

เราไปโรงบาลทำแผลทุก 2 วัน เราโดนตัดเนื้อไปเยอะเลยต้องฟื้นฟูเนื้อด้วยโปรตีนอย่างหนัก หมอชมเลยว่าแผลสวยมาก ช่วง 2 อาทิตย์แรกกิน 3 เวลาเลย ต่อด้วยวิตามินเสริมเส้นประสาทเพราะเท้าเราชา สำหรับคนผ่าตัดใหม่อยากฟื้นฟูเนื้อ มันช่วยให้แผลฟื้นไวมากๆ ช่วงแรกที่ผ่าเนื้อใหม่ๆ เรากินอะไรจะอ้วกตลอดเพราะผลข้างเคียงจากยาปฎิชีวนะทำให้เราคลื่นไส้ตลอดเวลา แต่หมอแนะนำต้องอัดโปรตีนเยอะๆ

ตอนนี้เดือนกว่าแล้ว เมเริ่มกลับมาทำงานรีวิว ทุก 2 วันไปทำแผลเหมือนเดิม สุดท้ายนี้หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นอุทาหรณ์ว่าน้ำลายสัตว์อันตรายมากๆ อยากให้ระมัดระวังอย่าให้เกิดการติดเชื้อนะคะ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ