'อุตตม' รับไม่คืบควบรวมพรรค 'สนธิรัตน์' ชี้ การเมืองเหนือคาด หลัง 2 ป.แยก

Home » 'อุตตม' รับไม่คืบควบรวมพรรค 'สนธิรัตน์' ชี้ การเมืองเหนือคาด หลัง 2 ป.แยก



“อุตตม” รับ พูดกันระหว่างพรรค ยังไม่มีข้อยุติ 100 เปอร์เซ็นต์ เมินคุย รทสช. ด้าน “สนธิรัตน์” ชี้ การเมืองเหนือคาด หลัง 2 ป.แยก

1 ธ.ค. 65 – ที่ จ.นราธิวาส นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ให้สัมภาษณ์กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ จะทำให้พรรคเดินหน้าทางการเมืองได้เต็มแล้วใช่หรือไม่ว่า เราเตรียมพร้อมมาโดยตลอด ฉะนั้นเราพร้อมที่จะเดินหน้าต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในเมื่อสูตรคำนวณส.ส.ออกมาแบบนี้ จะทำให้พรรคเล็กอยู่ยาก และหาทางรวมกับพรรคอื่นหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า เมื่อกฎเกณฑ์และกติกาออกมาแบบนี้ ต้องไปดูแต่ละพรรคจะมีแนวทางอย่างไรในการเดินหน้าต่อไปให้ได้ ซึ่งการควบรวมก็อยู่ในใจบางพรรค สำหรับพรรคสร้างอนาคตไทย เราอยู่บนหลักการที่ว่าหากเราเลือกเส้นทางนั้น เราจะต้องตอบโจทย์ให้ได้ว่าเราจะสามารถทำงานให้ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของพรรคสร้างอนาคตไทย มีแนวคิดที่จะควบรวมพรรคหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า มันมีอยู่แล้วในทางการเมือง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการพูดจากัน ตนยอมรับว่า มีการพูดจากันระหว่างพรรค แต่การพูดคุยนั้นยังไม่มีข้อยุติ 100 เปอร์เซ็นต์

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีพรรคการเมืองไหนที่มีแนวโน้มจะควบรวมกับพรรคสร้างอนาคตไทยได้บ้าง นายอุตตม กล่าวว่า คงต้องไปดู เพราะมีเงื่อนไขในมิติต่างๆ เช่นการทำงานร่วมกันจะลงตัวได้หรือไม่ เป้าหมายเชิงนโยบายสอดคล้องกันหรือไม่ หรือสามารถจัดคนทำงานในพื้นที่ได้หรือไม่ ซึ่งถ้าจะควบรวมกันทุกเรื่องจะต้องลงตัว

เมื่อถามว่า ในเวลาที่เหลืออยู่ไม่กี่เดือนที่จะยุบสภา การตัดสินใจในการควบรวมควรจะเร็วหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ถ้าจะเป็นเช่นนั้นก็ต้องเร็ว เพราะประชาชนหรือสังคมจะได้มีข้อมูล ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุยเงื่อนไขกันลงตัวหรือไม่

เมื่อถามว่า จะสามารถควบรวมกับพรรครวมไทยสร้างชาติได้หรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ไม่มีแนวความคิดนั้นอยู่เลย ไม่เคยพูดจากัน

ด้าน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค กล่าวถึงการแยกกันเดินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น จะส่งผลกับพรรคสร้างอนาคตไทยหรือไม่ว่า

จะต้องดูบริบทการเมือง และยุทธศาสตร์การเดินของแต่ละพรรค วันนี้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไปมาก ซึ่งเป็นเปลี่ยนแปลงอย่างคาดไม่ถึง สิ่งเหล่านี้บวกกับกติกาการเลือกตั้ง แน่นอนว่า อาจจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในหลายมิติของทุกพรรค

ตนเคยพูดแล้วว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยชัดเจนแล้ว ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้ตลอดเวลา ไม่ว่าพรรคใด เพียงแต่ว่าในทางการเมืองจะต้องลงตัว ซึ่งเราตอบไม่ได้ว่าการลงตัวของแต่ละพรรคการเมืองเป็นอย่างไรที่จะสอดรับกับตัวกฎหมายลูกที่จะใช้ในการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า มองปรากฎการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร แยกกันอย่างไร จะมีความได้เปรียบเสียเปรียบหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราคงไม่ได้มองเรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบ เรามีหน้าที่ประเมินการทำงานของแต่ละพรรค และปรับยุทธศาสตร์ของพรรคเราให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งตนคิดว่าทั้ง 2 ท่านก็มีเหตุผลในการเดิน เราก็ได้แต่ติดตามและเดินหน้าทางการเมืองของเรา

เมื่อถามอีกว่า การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้รัฐบาลจะอยู่จนครบเทอมหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ถือเป็นหน้าที่เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลมีตำแหน่งที่ว่างลง อย่างไรก็ต้องปรับ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งตนไม่สามารถประเมินได้ว่า จะอยู่ครบวาระหรือไม่

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ