อุกอาจ! โจรสวมหมวกบุกใช้มีดจี้คอชิงเงิน 5 พัน ถึงในบ้าน เจ้าของบ้านวอนขอชีวิตโดนคมมีดเจ็บ สุดท้ายพบเป็นญาติตัวเอง เคยเข้ามาขอเงินเมื่อหลายวันก่อน

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.สิทธิพร ศรีมารัตน์ ร้อยเวร สภ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์อย่างอุกอาจ บริเวณตึกแถวใกล้กับร้านมนูการช่าง ตรงข้ามตลาดเย็น และตลาดนัดคลองถม เขตเทศบาลเมืองวังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว คนร้ายได้ทรัพย์สินไปเป็นเงินสด 5,000 บาท จึงรายงานให้กับ พ.ต.อ.ชนณพัฒน์ ศิริเลิศ ผกก.สภ.วังน้ำเย็น รับทราบ พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชา ตามลำดับชั้น

จากนั้นเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นตึกแถว 2 คูหา ทราบชื่อผู้เสียหายคือ นายสมศักดิ์ อายุ 67 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกมีดปลายแหลมบาดที่บริเวณลำคอและนิ้วชี้มือขวา ขณะนอนพักผ่อนอยู่ในบ้าน เบื้องต้นญาติต้องนำตัวไปทำแผล เพื่อห้ามเลือด

พ.ต.อ.ชนณพัฒน์ เปิดเผยว่า หลังผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.วังน้ำเย็น และตนลงพื้นที่จุดเกิดเหตุด้วย จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าสอบสวนและไล่กล้องวงจรปิดทันที พบเบาะแสจากร้านค้าใกล้เคียงว่า ผู้ก่อเหตุเคยมาซ่อมรถและมีคนจำได้ว่าชื่อ ‘ตาแดง’ อีกทั้งกล้องวงจรปิดสามารถเห็นทะเบียนรถชัดเจน จึงตรวจเช็กข้อมูลเจ้าของรถและติดตามไปที่บ้าน แต่ไม่พบตัว

จึงประสานบ้านญาติและออกติดตามสืบสวนจากกล้องวงจรปิดจนพบว่าช่วงก่อเหตุ คนร้ายใส่หมวกผ้าสีเทา ปิดบังใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศร และมากลับรถหน้าบ้านผู้เสียหาย มุ่งตรงเข้าไปเปิดประตูม้วนเบาๆ ซึ่งผู้เสียหายไม่ได้ยิน ก่อนจะบุกเข้าไปก่อเหตุใช้มีดปลายแหลมปอกผลไม้ยาวประมาณ 5 นิ้ว จี้ที่คอชิงเงินผู้เสียหายภายในบ้านไป 5,000 บาท เป็นธนบัตรไทยฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 5 ใบ

ทั้งนี้ หลังก่อเหตุคนร้ายเดินออกมาอย่างช้าๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าและถอดหมวกที่คลุมใบหน้าออก ก่อนจะขับรถมุ่งตรงไปเข้าซอยข้างร้านข้าวต้มใบเตย เพื่อไปยังถนนสาย สหกรณ์ เลี้ยวซ้ายไปวิ่งถนนสายโรงเรียนบ้านวังวน ข้ามไปยังเขตพื้นที่ ต.ซับมะกรูด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านของน้องสาว

ก่อนหน้านั้นนำเงินไปใช้หนี้ 200 บาท และใช้จ่ายไปประมาณ 500 บาท จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามเข้าไปจับกุมตัวได้ ขณะนั่งกินลูกชิ้นและไส้กรอกในบริเวณบ้านน้องสาว พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ และเงินสดที่เหลือจำนวนหนึ่ง

ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนที่ห้องสืบสวน สภ.วังน้ำเย็น โดยมี พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.พีระพงษ์ เหล่าธนาวิน รอง ผบก. เดินทางมาติดตามคดีและสอบสวนผู้ต้องหาด้วยตนเอง

ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่า ต้องการนำเงินไปใช้หนี้และใช้จ่ายส่วนตัว พร้อมกำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน และสอบสอบให้แล้วเสร็จ เพื่อส่งฟ้องและฝากขังต่อศาล จ.สระแก้ว ในวันที่ 28 พ.ค.65

ด้าน นายสมศักดิ์ อายุ 67 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นใคร เพราะคนร้ายสวมหมวกปิดบังใบหน้าไว้ แต่มารู้ภายหลังว่าเป็นญาติห่างๆ ทางน้องเมีย เคยเข้ามาหาตนเพื่อขอเงินหลายวันก่อน ซึ่งวันเกิดเหตุเขาเปิดประตูเข้ามา แล้วใช้มีดจี้คอทันที ตนก็บอกว่า มึงอย่าทำอะไรกู มึงจะเอาเงินใช่มั้ย เดี๋ยวกูให้ ซึ่งมันเอามีดจี้ที่คอจนถูกคมมีดบาดเป็นแผลที่คอ และที่นิ้วชี้มือขวา เพราะไปจับที่มีด

“ผมบอกว่า มึงอยากได้ใช่มั้ย เดี๋ยวกูให้ มึงอย่าทำอะไรกู จึงหยิบเอาเงินในกระเป๋าให้ไป แบงก์พัน ตอนแรกไม่ได้นับ หลังจากนั้น มันก็เดินออกไป จึงบอกญาติว่า คนที่เข้ามาเมื่อกี้ เข้ามาจี้ลุง จึงแจ้งตำรวจเพื่อตามจับตัว โดยตำรวจมาเอาภาพจากกล้องของบริษัทซึ่งอยู่ตึกติดกัน และตอนควักเงินออกมา ก็ไม่รู้ว่าให้ไปเท่าไหร่ ต้องขอบคุณตำรวจที่ทำงานได้อย่างรวดเร็ว และสามารถจับกุมคนร้ายได้ภายในเวลาไม่นาน” นายสมศักดิ์ กล่าว

 

ที่มา มติชนออนไลน์