ที่ประชุมรัฐสภา ถก ร่างพ.ร.บ.ตำรวจ ผ่านครึ่งวัน ได้เพียง 3 มาตรา เสียงส่วนใหญ่เห็นชอบ “นายกฯ” นั่ง ประธาน ก.ตร.ตามกมธ.แก้ไข

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมรัฐสภา ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญัญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ…. ซึ่งกรรมาธิกาาร (กมธ.) วิสามัญฯ ที่มี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ส.ว. ในฐานะรองประธานกมธ. ทำหน้าที่ประธานกมธ. พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระสอง ต่อเนื่องจากการประชุมรัฐสภาสัปดาห์ที่แล้ว ที่พิจารณาถึงมาตรา 13

ที่ประชุมได้พิจารณาในมาตรา 14 ว่าด้วยคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) โดยร่างมาตรา 14 กมธ.คงกำหนดให้ นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งประธาน ก.ตร. และตัดตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม อัยการสูงสุด และเลขาธิการสำนักศาลยุติธรรม ออกจากบทบัญญัติที่เสนอในวาระรับหลักการ

ทั้งนี้ การอภิปรายของสมาชิกในมาตราดังกล่าว ทางส.ส.ทักท้วงและไม่เห็นด้วย กับการกำหนดให้ นายกรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งประธาน ก.ตร. เนื่องจากกังวลว่าจะเปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจได้

โดยพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า ไม่เห็นด้วยให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายการเมืองดำรงตำแหน่งดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาพบการใช้อำนาจและตำแหน่ง เพื่อแทรกแซงโยกย้ายโดยไม่คำนึงถึงหลักการอาวุโส ความรู้ ความสามารถ และเพื่อให้การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจเป็นไปตามความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสมในความอาวุโส จึงเห็นควรให้บุคคลในวงการตำรวจ เช่น ผบ.ตร. หรือ อดีต ผบ.ตร. ทำหน้าที่ดังกล่าว

ขณะที่ในตำแหน่งของ ก.ตร.นั้น มีผู้เสนอให้มีสัดส่วนจากภาคประชาชน ตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง รวมถึงนายกสภาทนายความมามีส่วนร่วม แต่ในการลงมติปรากฎว่าเสียงข้างมากเห็นชอบกับการแก้ไขของกมธ.

จากนั้น ได้พิจารณามาตรา 15 ว่าด้วยหน้าที่และอำนาจของ ก.ตร. ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาก่อนลงมติให้เป็นไปตามการแก้ไขของกมธ.เสียงข้างมาก ที่กำหนดให้ ก.ตร. ออกข้อกำหนด นโยบาย มาตรฐาน ที่เกี่ยวเนื่องกับข้าราชการตำรวจ

ส่วนมาตรา 16 ว่าด้วยคุณสมบัติกรรมการข้าราชการตำรวจ โดยที่ประชุมลงมติแก้ไขตามกมธ.เสียงข้างมาก ที่แก้ไขเป็นกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ จากเดิมที่เป็นกรรมกรผู้ทรงคุณวุฒิ อย่างไรก็ตามการพิจารณาผ่านมาครึ่งวันแล้ว ที่ประชุมพิจารณาได้เพียง 3 มาตรา เท่านั้น