สภาส่งสำเนาบันทึกครั้งที่ 501 ให้ศาลรธน.วันนี้ เผยมีแค่จุดมุ่งหมาย ไม่มีรายงานชวเลขถอดทุกคำพูด เหตุ ‘มีชัย’สั่งไม่ใช้จนท. มั่นใจบันทึกครั้งที่ 500 ถูกต้อง
เมื่อวลา 10.20 น.วันที่ 9 ก.ย. 2565 ที่รัฐสภา นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้เลขาธิการสภา จัดส่งสำเนาบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่ 501 วันที่ 11 ก.ย. 2561 ซึ่งมีวาระการประชุม รับรองการประชุมครั้งที่ 500 วันที่ 7 ก.ย. 2561 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมตรวจทานแล้วโดยไม่มีการแก้ไข ให้จัดส่งต่อศาลภายในวันที่ 13 ก.ย. เพื่อพิจารณาประกอบคำร้องขอให้วินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสอง ประกอบมาตรา 158 วรรคสี่หรือไม่ว่า ทางสำนักงานได้เตรียมเอกสารไว้แล้ว
เนื่องจากศาลได้ส่งหนังสือขอเอกสารมาทางอีเมล์เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่เอกสารฉบับทางการ มาถึงสำนักงานในเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน ทางสำนักงาน พร้อมส่งเอกสารให้ศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ (9 ก.ย.)
เมื่อถามว่าเอกสารดังกล่าว ถือเป็นหลักฐานทางชั้นศาลได้หรือไม่ นางพรพิศ กล่าวว่า เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา ยืนยันว่าทางสำนักงาน มีเอกสารครบ เพราะเราเป็นแหล่งจัดเก็บเอกสารทางประวัติศาสตร์ของสถาบันนิติบัญญัติทั้งหมด ดังนั้น ทุกอย่างจึงมีครบ
รายงานข่าวจากสำนักงานเลขาธิการสภา ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประชุมกรธ. แจ้งว่า การประชุมของกรธ. ในช่วงที่ทำความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากทำรัฐธรรมนูญ 2560 เสร็จนั้น พบว่า มีเพียงการทำบันทึกการประชุมเท่านั้น ไม่มีรายงานการประชุมที่ใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข ดำเนินการบันทึกจดคำพูดทุกตัวอักษร เนื่องจากนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ระบุว่าไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข เพราะผ่านขั้นตอนการทำรัฐธรรมนูญแล้ว
ส่วนประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการประชุมกรธ. ครั้งที่ 500 ซึ่งนายมีชัย ระบุในคำชี้แจงที่ส่งต่อศาลว่า เป็นการจดรายงานที่ไม่ครบถ้วน และสรุปตามความเข้าใจของผู้จด อีกทั้งกรธ. ยังไม่ได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมนั้น แหล่งข่าวแจ้งว่า ในบันทึกการประชุมกรธ. ครั้งที่ 501 มีคำยืนยันว่าผ่านการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุม โดยคณะอนุกรรมการฯ ที่มีนายอภิชาต สุขัคคานนท์ อดีตกรธ. ในฐานะประธาน ซึ่งคณะดังกล่าวมีนายสุพจน์ ไข่มุกด์ เป็นรองประธานกรธ. คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่อนุกรรมการตรวจบันทึกการประชุมด้วย
“หากบันทึกการประชุมของกรธ. ครั้งที่ 500 ทำไม่ถูกต้องตามที่นายมีชัยระบุในคำชี้แจงที่ให้ต่อศาล นายสุพจน์ ที่ร่วมเป็นอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมฯ ต้องทักท้วงและท้วงติงก่อนเสนอให้ที่ประชุมกรธ. พิจารณาแล้ว เนื่องจากในบันทึก ครั้งที่ 500 นั้น มีการจดบันทึกและรายงานการแสดงความคิดเห็นของนายสุพจน์ ไว้คู่กับนายมีชัยด้วย อย่างไรก็ตาม บันทึกการประชุมนั้น เป็นเอกสารที่เผยแพร่ได้ ในห้องสมุดรัฐสภา และอดีตกรธ.ทุกคน จะมีบันทึกการประชุมทุกนัดไว้คนละหนึ่งฉบับ” แหล่งข่าว ระบุ