หากพูดถึงนักแสดงที่เป็นตัวแทนของรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ ในยุคนี้ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของนักแสดงมากความสามารถ รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ที่ออกมาหน้าจอทีไรก็เรียกเสียงฮาได้เสมอ จนกลายเป็นขวัญใจของแฟนๆ ทั่วบ้านทั่วเมือง
และล่าสุดเจ้าตัวกำลังจะมีผลงานสุดท้าทายครั้งใหม่ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เสียงหัวเราะ แต่เจ้าตัวยังท้าทายตัวเองด้วยการรับบทหนักเอาตัวรอดจากโลกที่โหดร้าย กับภาพยนตร์สุดเข้มข้น “Dark World…เกม ล่า ฆ่า รอด” จาก อาร์มันโด้ โปรดักชั่น ร่วมกับนักแสดงมากฝีมือมากมายจะได้ชมกันในวันที่ 11 พ.ย. 2564 นี้
งานนี้ sanook.com พลาดไม่ได้ ต้องให้เจ้าตัวมาเล่าถึงผลงานนี้ พร้อมกับพูดคุยถึงเรื่องราวชีวิตที่เจ้าตัวบอกเลยว่า โลกเราไม่ได้สวยงามเสมอไป และเรื่องเศร้าครั้งใหญ่ของชีวิตเมื่อพบว่าต้องสูญเสียคุณพ่อ ที่ตนเองตามหามาทั้งชีวิต เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันเลย
เรื่องดาร์กเวิร์ค รับบทเป็นใครและเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรบ้าง?
“เรื่องนี้รับบทเป็น “แฮปปี้” เป็นเพื่อนสนิทของ “รัน” ในดาร์กเวิร์ลพอโลกมันล้มสลาย มันไม่มีอะไรเลย ไม่มีกฎหมาย ทุกคนต้องเอาชีวิตรอด ด้วยวิธีต่างๆ เท่าที่ตัวเองจะทำได้ ตัวแฮปปี้ใกล้เคียงกับเราแหละ คือ คนจะมองพาร์ทเป็นตุ๊ด เป็นเกย์ เล่นหนังเล่นละครมันต้องตลก แต่ตัวแฮปปี้เนี้ยบทมันต้องเอาตัวรอด ซึ่งพวกคนที่เป็น LGBTQ พอเราถึงจุดที่ต้องเอาชีวิตรอด ความเป็นตัวเรามันจะออกมาเอง ถ้าวิ่งเราก็วิ่งสุด ให้สู้ เราก็ต้องสู้สุด ความพิเศษของเรา คือ พาร์ทความที่ต้อง ตอแ-ลเพื่อให้อยู่รอด เราก็จะต้อง ตอแ-ลเพื่อที่จะอยู่รอดให้สุด”
เรื่องนี้มีความน่าสนใจยังไงบ้าง?
“แขว่าน่าสนใจมากๆ ที่ความซับซ้อน บทแขเป็นคนร่าเริง แฮปปี้ ในใจก็อ่อนโยนมากๆ แต่ในทางกลับกัน ต้องสู้ ต้องอยู่ให้ได้ ทั้งเรื่องพละกำลังและความคิด มันมีความซับซ้อนในตัวของมัน ไม่ใช่ว่าลั้ลลาๆ กินผู้ชาย ไม่ได้เป็นแบบนั้น คือ จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก็ไม่เอาอ่ะ จะต้องอยู่รอด”
มีอะไรที่รู้สึกว่าหนักที่สุดในเรื่อง?
“เล่าไม่ได้ด้วย เป็นฉากไฮไลท์ ฉากไม้กางเขน อึดอัด เสียใจ โกรธ ทรมาน ทุกอย่างรวมอยู่ในอารมณ์เดียวกันเลย ต้องรอชมกัน”
ชอบอะไรในเรื่องที่สุด?
“แขชอบเรื่องของการที่เราต้องเอาตัวรอด ถ้ามองเปรียบกับความเป็นจริงทุกวันนี้ เราก็รู้ว่าชีวิตเราทุกวันนี้มันไม่ได้เรียบง่าย ทุกคนต้องหาเลี้ยงปากหาเลี้ยงท้อง แล้วมันตีแผ่ว่าวันนึงถ้ามันไม่มีกฎหมาย อ้าว! ทำยังไงล่ะ แต่ในเรื่องราวทั้งหมดก็ คือ ความผิดชอบชั่วดี ก็มีอยู่ มันเหมาะกับโลก เรารู้จักผิดชอบชั่วดี คนชั่วก็ไม่ได้หมดไป แล้วเราจะอยู่ยังไงในสิ่งที่มันเลวร้ายแบบนี้ เราจะอยู่ยังไงให้ได้”
ไม่เครียดเกินไปใช่ไหม?
“ถามว่าเครียดไหม พาร์ทสนุกมันก็มี ครบรส พาร์ทเครียดก็ อื้อหืม เครียดเอาการ”
อยู่วงการมา 6 ปีแล้ว วางแผนการใช้ชีวิตในวงการไว้ยังไงบ้าง?
“ถ้ามีคนจ้างอยู่ ก็ยังทำอยู่ แขรักในวงการนี้ อย่างที่สองก็ดูความรู้สึกของตัวเองและครอบครัวมากกว่า”
คิดไหมว่าจะอยู่วงการได้นานแบบนี้?
“ไม่คิดนะ คิดว่าพวกพี่นุ้ย พี่หอม พี่บุ๊ค เขาใช้เวลากันมาก ของเราก็ปล่อยไป แต่พอของเรามันมาไวปุ๊บ มันมีจุดเซ พอมันเซ มันไม่ทัน ก็เข้าไปคุยกับพี่ฉอด พี่ฉอดก็ดึงเราขึ้นมา แนะนำ พูดเตือนสติเรา เราก็ปล่อยมันเป็นไป การทำงานเทปเทปนึงเราต้องตั้งใจทำงานมาก ถ้าเราไม่ตั้งใจ งานออกมาไม่ดี ใครจะมาจ้าง เราไม่เคยมองว่าตัวเองป็นดารา เรามองว่าตัวเองเป็นพนักงานบริษัท ถ้าวันนึง สมมติเราเป็นมาร์เก็ตติ้ง เราทำงานออกมาไม่ดี ให้บริษัทเขาไม่ได้ เขาก็ไม่จ้างเรา เพราะฉะนั้นการแสดงก็เหมือนกัน“
กดดันไหมกับการที่คนคาดหวังว่าเจอเราแล้วต้อง ตลก หรือ สนุก?
“ไม่กดดัน แขว่าเขามากกว่าที่กดดัน เขาจะทักแขยังไง พวกที่เข้ามาแบบ คุณแม่!! อันนี้จอยเลย ก็มีที่แบบอยากหยอก อยากล้อ มาแบบยังไงคะตัวเอง เออ อันนี้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าแบบมันแล้วแต่เวย์คนที่มา แบบถ่ายรูปได้ป่ะ! มันก็จะ หึ! อะไรยังงี้ ก็งงๆ อยากทักก็ทักเลย บางทีเดินมา บอกว่าเจอตัวจริงไม่เห็นตลกเลย ก็จ่ายเงินมาสิคะเดี๋ยวจะเล่นตลกให้ดู”
วงการกับการโดนบูลลี่แทบจะมาคู่กัน เราโดนมาหนักไหม?
“หูย! โดนมาหนักหน่วงจนทุกวันนี้ต้องบอกว่าไม่ต้องมาถามคนที่โดนบูลลี่แล้ว ไปถามพวกที่บูลลี่ดีกว่า ถ้าเรายื่นไมค์ถามคนว่าเคยบูลลี่คนไหม มันต้องเคย เออ เพราะอะไรล่ะ ทำไมถึงทำแบบนั้น เอาคำตอบจากพวกนี้ให้ได้ดีกว่า เป็นอะไร เห็นคนดำ ทำไมถึงอยากบอกว่าเขาดำล่ะคะ เป็นอะไร ก็ดำจริงไหมล่ะ ใช่ ดำจริง แล้วทำไมพี่ถึงอยกาพูดล่ะคะ เพราะอะไร”
เคยถึงจุดที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ไหม?
“ก็ไม่อะไร ก็ พ่อมึ-สิ อื้อ! ยังงี้เลย วิธีการจัดการง่ายมาก คือ เดดแอร์ เป็นสิ่งที่ดีที่สุด ตัวจริงขาวนะครับเนี้ย ..ครับ แล้วทุกอย่างเงียบ แล้วเขาจะรู้สึกเองว่า ไอ้หยา ไม่เวิร์ค เฮ้ย บรรยากาศเฟล ทุกอย่างเงียบ เขาถึงบอกว่าสงบ สยบทุกความเคลื่อนไหว”
อยากบอกอะไรคนที่โดนแล้วจัดการความคิด ความรู้สึกยังไม่ได้ไหม?
“โลกเราไม่ได้สวยงามเสมอไป แขออกไปข้างนอก แขโดนแก้วนะ แขยังไม่เป็นดารา มีคนมาว่าแข ว่าโน่นว่านี่สารพัด มันทำให้เห็นว่า โลกเราคนไม่ได้น่ารักทุกคน แล้วเราจำเป็นไหม ที่เราจะให้ชีวิตเราดำเนินไปตามคนพวกนั้น ขณะเดียวกันคนไม่น่ารักมันมี แต่คนน่ารักเขาก็มี เราจะเลือกสิ่งไหนล่ะ พูดแค่นี้”
มีช่วงอยากออกจากวงการบ้างไหม?
“อยากออก เพราะทำงานเยอะ ทำงานเยอะแล้วรู้สึกว่าชีวิตไม่บาลานซ์ ชอบความบาลานซ์มากกว่า บางทีแขก็ไม่อยากสูญเสียเวลาการใช้ชีวิต แขสูญเสียการเห็นหลานเติบโตมาค่อนข้างเยอะ มันเป็นมูลค่าราคาแพงมากที่แขเลือกการอยู่ในวงการทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นตอนนี้แขพยายามทำงานหาเงินให้ได้มากที่สุด ยิ่งเราหาได้มากเท่าไหร่เรายิ่งจัดการหลายๆ อย่างได้มากเท่านั้น จากปกติเราอาจจะต้องรับงานทุกวัน แต่ตอนนี้พอมูลค่าเรามันเริ่มมีมากขึ้น เราอาจจะสามารถรับงานลดลง เหลืออาทิตย์ละ 5 วันดีไหม แล้วเอาเวลาที่เหลือกลับสวีเดน เป็นเรื่องของการบาลานซ์ชีวิตล้วนๆ เลย”
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราตอนนี้คืออะไร?
“ครอบครัว แขไม่ได้เจอครอบครัวมา 2 ปีแล้ว ไม่ได้เจอหลานๆ ไม่ได้เห็นหลานเรียนจบ เป็นมูลค่ามากที่เราก็ต้องแลก แต่การที่เราแลกกับการทำงานมันก็คุ้มค่ากับการที่เราจะซื้อตั๋ว ให้หลานบินมาหาเราอะไรอย่างงี้”
เพิ่งเจอข่าวร้ายสูญเสียคุณพ่อที่เราตามหามาตลอด?
“ตอนแรกเจอก็ดีใจ โอ้โห! อยากเจอมาก พอหมดโควิดจะไปหาพ่อ พ่อก็เสีย”
“ตอนรู้ข่าว มันมึน แบลงค์ มึน ไม่เข้าใจ แล้วก็แบบอึนๆ เลยนะ ยังไง ยังไงต่อ ด้วยตัวเองเป็นคนเชื่อในพรหมลิขิต แล้วอย่างที่บอกไม่ว่าแขจะชกมวยเก่งแค่ไหน มีพลังแค่ไหน แต่เราไม่ใช่ซูเปอร์ฮีโร่ ที่จะไปหยุดความตายได้ มันนอกเหนือพลังทุกสิ่งทุกอย่างที่แขจะทำได้ มันนอกเหนือความสามารถของแข แขทำไม่ได้ และไม่มีใครทำได้ หมอยังทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งเดียวที่ทำได้คือ “เข้าใจ”
“ในวันที่คิดถึงเราก็ทำให้ตัวเองมีความสุขมากที่สุด หวังว่าคุณย่า น้า พ่อ ถ้าชีวิตหลังความตายมันมี เรามานั่งเสียใจ เขาคงจะรู้สึกแย่มาก ถ้าเขาเลือกได้เขาคงไม่อยากตาย แต่เขาก็ฝืนตรงนั้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องอยู่ให้มีความสุข พยายามทำตัวเองให้รู้หน้าที่ว่าหมดพ่อไปก็ยังเหลือพี่น้อง หมดย่าไป ป้าก็ยังอยู่ ลูกสาวของย่า คนในครอบครัวก็ยังอยู่ เราอย่าลืมหน้าที่ หลานก็ยังเล็กอยู่ เราก็ยังเป็นลุงเป็นน้า”
อะไรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้มีวันนี้?
“ครอบครัว กับ ความรัก คนเราถ้าจะทำอะไรได้ดีต้องมีความรักมาก่อน ถ้าเรารักในงานเรามันจะทำออกมาได้ดี ถ้าเรารักในวอลเล่บอลเราจะมีกำลังซ้อม เราฝึกตัวเองให้รักในกีฬามวย เราก็จะต่อยมวยได้ดี ถ้าเรารักครอบครัวเราก็จะอยากทำเพื่อเขา อยากดูแลเขา”
นิยามความ “รัศมีแข” ให้ฟังหน่อย?
“สวย อ่อนโยน … (หัวเราะ) จริงๆ เป็นคนสวยและเซนซิทีฟมาก เซนซิทีฟแบบลึกเลย เป็นคนค่อนข้างแคร์ความรู้สึกคน แม้กระทั่งคนคนนั้น เอางี้ คนมายืมเงินเรา ไม่คืน เราก็เป็นห่วงเขา เขาจะเป็นไรไหมนะ โอนเงินไปให้เขา อ่ะเก็บไว้นะ เก็บไว้ใช้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราหาใหม่ได้ แต่ถ้ายืมก้อนใหญ่เราไม่ให้นะ ถ้าสอง สามพัน เราให้ เอาไปใช้เถอะ แขเป็นคนแบบนี้ สั่งอาหารเขามาส่งระหว่างที่ฝนตก เปียกมาเลย เราให้เขาเลยสองพัน เพราะเขาคือคนที่สู้ทำงานขนาดนี้”
ในวันที่เกิดเรื่องราวกับเราในหลายครั้ง คิดไหมว่าจะมีคนรักขนาดนี้?
“ไม่คิดนะ แต่อย่าเกลียดกันเยอะก็พอนะ จริงๆ ไม่หรอก แขว่ามีทั้งคนชอบและไม่ชอบ แต่ด้วยอะไรต่างๆ ก็ตาม แขจะภูมิใจที่สุด ถ้าคนคนนั้นรักแขในสิ่งที่แขเป็น นอกจากการตัดสินแข ณ ภาพข่าว หรือว่าจอทีวีที่เห็นเท่านั้นเอง”
สุดท้ายฝากผลงานและฝากถึงแฟนๆ หน่อย?
“แขฝาก ดาร์กเวิล์ด ไว้ด้วย เป็นอีกหนึ่งการทำงานที่พวกเราทุกคนตั้งใจกันมากๆ นี่เป็นหนึ่งอรรถรสของหนังไทยอีกเวย์หนึ่งที่เราจะได้เห็นกัน ส่วนแฟนๆ เจอหน้าก็กรี๊ดใส่เลย ไม่ต้องมาแอ๊บแอ้ ยึกยักๆ รำคาญ เดินเข้ามา พี่แข ถ่ายรูปหน่อยค่ะ จะเอาอะไรบอก หงุดหงิด เออ อยากถ่ายรูปบอกก็ได้ถ่ายแล้ว ที่ยึกยักส่วนมากไม่ได้ถ่าย ไม่ต้องยึกยัก รำคาญ” รัศมีแขปิดท้ายพูดหยอกแฟนคลับด้วยความอารมณ์ดี