เมื่อวันที่ 8 ต.ค.66 อิสราเอลถล่มฉนวนกาซาเป็นการตอบโต้หลังการโจมตีนองเลือดในรอบทศวรรษ ที่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลอย่างไม่ได้ทันตั้งตัว สังหารและจับประชาชนจำนวนมากเป็นตัวประกัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากทั้งสองฝ่ายมากกว่า 1,100 คน สร้างความกังวลว่าสงครามอาจลุกลามไปทั่วตะวันออกกลาง
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศถึง “การแก้แค้นครั้งใหญ่ให้กับวันอันชั่วร้ายนี้” หลังทางการอิสราเอลประกาศภาวะสงครามเมื่อวันอาทิตย์ หลังกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธของปาเลสไตน์ได้เปิดฉากโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปีเมื่อวันเสาร์
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวเตือนด้วยว่า “สงครามนี้จะต้องใช้เวลา” ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายกลาโหมอิสราเอล ระบุว่า กลุ่มฮามาสได้ “เปิดประตูสู่อเวจี” ด้วยการโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ก่อขึ้น
แม้ว่ายังไม่มีความชัดเจนว่ารูปแบบการตอบโต้ของอิสราเอลจะเป็นเช่นไร นักวิเคราะห์ด้านตะวันออกกลางบางส่วนเห็นว่า อิสราเอลอาจโจมตีภาคพื้นในกาซา ซึ่งอาจเป็นการยกระดับความขัดแย้งอย่างมีนัยสำคัญ
หน่วยงานสาธารณสุขในปาเลสไตน์ รายงานว่ามีประชาชนเสียชีวิตราว 413 รายในกาซา และบาดเจ็บ 2,300 คน หลังจากอิสราเอลระดมโจมตีทางอากาศในช่วงข้ามคืนในพื้นที่ของกลุ่มฮามาสในกาซา
ด้านสถานีโทรทัศน์อิสราเอลรายงานว่า กลุ่มติดอาวุธสังหารชาวอิสราเอลมากกว่า 700 คน และมีรายงานว่ากลุ่มฮามาสจับกุมประชาชนจำนวนมากเป็นตัวประกันเมื่อวันเสาร์
กองทัพอิสราเอลที่กำลังถูกตั้งคำถามถึงความล้มเหลวในการป้องกันเหตุโจมตี ระบุว่าได้เข้าควบคุมพิกัดสำคัญหลายแห่ง สังหารและจับกุมผู้ก่อเหตุโจมตี กองทัพอิสราเอลยังคงต่อสู้กับกลุ่มฮามาสในหลายพื้นที่ขณะนี้ รวมทั้งส่งทหารนับหมื่นนายเข้าปิดล้อมพื้นที่ฉนวนกาซา บ้านของชาวปาเลสไตน์ 2.3 ล้านชีวิต เพื่ออพยพชาวอิสราเอลออกจากพื้นที่ดังกล่าว
โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า “เราจะเดินหน้าโจมตีกลุ่มฮามาสอย่างรุนแรงและนี่จะเป็นสงครามอันยาวนาน” พร้อมทั้งเตือนกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอนด้วยว่า “อย่าเข้ามามีส่วนร่วมกับเรื่องนี้”
ตอนนี้มีสัญญาณความขัดแย้งขยายวงกว้างออกไปนอกฉนวนกาซา เมื่อกองทัพอิสราเอลปะทะกับกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลเลาะห์ด้วยจรวดและปืนใหญ่ ขณะที่ในอียิปต์ มีรายงานนักท่องเที่ยวอิสราเอล 2 รายถูกยิงเสียชีวิตกับไกด์ชาวอียิปต์
ที่ฉนวนกาซา อับเดล-ลาติฟ อัล-กานูอา โฆษกของกลุ่มฮามาส กล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวเป็น “เพื่อปกป้องประชาชนของเรา” โดยเสริมว่า นักรบของกลุ่มยังคงโจมตีด้วยจรวดต่อไป และยังคงปฏิบัติการอยู่เบื้องหลัง
การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันเสาร์ ถือเป็นเหตุโจมตีรุนแรงและนองเลือดที่สุดในอิสราเอล นับตั้งแต่อียิปต์และซีเรียเปิดฉากโจมตีเพื่อหวังทวงคืนดินแดนในยมคิปปูร์ เมื่อ 50 ปีก่อน
ในวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวกับนายกฯ อิสราเอลว่าความช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อกองทัพอิสราเอลกำลังเดินทางไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ตามการเปิดเผยของทำเนียบขาว
ฝั่งกระทรวงกลาโหม ระบุว่าได้ส่งเรือและเครื่องบินรบเข้าไปประชิดใกล้อิสราเอลเพื่อแสดงการสนับสนุนอิสราเอล และว่ารัฐบาลวอชิงตันเชื่อว่าการโจมตีล่าสุดของกลุ่มฮามาสอาจมีแรงจูงใจที่จะขัดขวางการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติ