ญาติไม่ทน! แจ้งจับน้าชายแท้ๆ เพิ่งพ้นโทษไม่นาน ล่วงละเมิดหลานสาววัย 13 ทั้งที่ใส่กำไล EM สบโอกาสแม่เด็กไม่อยู่บ้านลงมือ ตร.เร่งไล่ล่าตัว
เมื่อเวลา 10.00 น. เมื่อวันที่ 11 เม.ย.66 น.ส.บี (นามสมมติ) พร้อมด้วย นายไก่ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นอาสาวและปู่ ของด.ญ.เอ (นามสมมติ) วัย 13 ปี นักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่งในอ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เดินทางมาร้องผู้สื่อข่าวถึงบ้าน หลังหลานสาวถูกน้าชายแท้ๆ ที่เพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำ ล่วงละเมิดทางเพศ ขณะที่แม่ของเด็กไม่อยู่บ้าน
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ภายในห้องนอนของหลานสาว ช่วงเวลา 19.10 น. ซึ่งเป็นบ้านของแม่ในพื้นที่ ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม โดยรุ่งเช้าหลังคืนเกิดเหตุ ด.ญ.เอต้องเดินเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตรเพื่อไปขออยู่กับอา โดยที่ไม่ได้บอกหรือเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง เพราะกลัวน้าชายจะมาทำร้ายร่างกาย เนื่องจากน้าชายรู้จักคนมาก และยังเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ช่วงที่มาอยู่ที่บ้านของแม่ น้าชายก็เพิ่งพ้นโทษออกมา
ด้านน.ส.บี กล่าวว่า ตนเลี้ยงดูหลานสาวคนนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว ดังนั้นการที่หลานสาวคนนี้มาขอพักอาศัยอยู่ด้วย จึงไม่ได้คิดอะไร เพราะหลานสาวก็มักจะมาขอนอนที่นี่เป็นประจำ และก็จะมาช่วยอาขายของ เนื่องจากที่บ้านเปิดเป็นร้านโชว์ห่วยให้กับคนในพื้นที่
แต่เรื่องดังกล่าวตนมารู้ก็เพราะเห็นแชตของหลายสาว ที่น้าชายคือนายพงษ์ทวี อายุ 30 ปี ทักแชตมาหาด.ญ.เอ เพื่อขอโทษกับการกระทำ และขอให้เรากลับมาเป็นน้าหลานกันเหมือนเดิม แต่ก็ถูกปฏิเสธ จากหลานสาว เพราะกลัวจะถูกล่วงละเมิดทางเพศอีก จนตนเองเห็นแชต จึงเรียกด.ญ.เอมาสอบถามความจริง
และทราบว่าน้าชายแท้ๆ ซึ่งเป็นน้องของแม่กล้าทำเรื่องแบบนี้กับหลานสาวตัวเอง จึงรีบแจ้งให้นางเกศรา ผู้เป็นแม่ทราบเรื่อง ซึ่งนางเกศรารับปากจะพาหลานไปแจ้งความ แต่เวลาผ่านไป 2 อาทิตย์กว่า ผู้เป็นแม่กลับนิ่งเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนจึงเดินทางมาพร้อมกับปู่ของด.ญ.เอ เข้ามาร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว
จากนั้นจึงประสานไปยัง ว่าที่ร้อยตรี ศิรพงศ์ โภคินวงศ์หิรัญ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อให้การช่วยเหลือ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานในเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงนำด.ญ.เอ พร้อมด้วยอาและปู่ เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สงบ โคตรโย สารวัตรสอบสวน สภ.เขาหินซ้อน และส่งด.ญ.เอเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลพนมสารคาม
ด้าน พ.ต.ต.สง่า ปรีเดช สารวัตรสืบสวน สภ.เขาหินซ้อน หลังทราบเรื่องที่เกิดขึ้นเร่งสั่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไล่ล่าตัวนายพงษ์ทวีทันที ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า ตัวผู้ก่อเหตุ หลบหนีออกจากบ้านพักของนางเกศรา ผู้เป็นพี่สาวไปแล้ว พร้อมกับภรรยาและลูก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า ตัวผู้ก่อเหตุหลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีลักทรัพย์โรงงาน แต่ยังคงใส่กำไล EM และช่วงที่ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศด.ญ.เอ ยังอยู่ในช่วงที่ใส่กำไล EM ซึ่งตอนนั้นถ้าแม่เด็กหญิงเอมาแจ้งความเอาผิดน้องชายตัวเอง ก็สามารถติดตามตัวได้ง่าย แต่ตอนนี้ปลดกำไล EM ออกไปแล้ว และยังไปก่อคดีเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ทำให้หลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว