ในรายการโหนกระแสวันที่ 10 มีนาคม 2568 ได้มีการพูดคุยถึงกรณีการเสียชีวิตของอดีตผู้กำกับโจ้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ที่เกิดขึ้นในเรือนจำกลางบางขวาง โดยข้อมูลเบื้องต้นมีการเปิดเผยว่าเป็นการจบชีวิตตัวเองในเรือนจำ อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของอดีต ผกก.โจ้ ได้ให้ข้อมูลที่สำคัญว่ามีความเป็นไปได้ที่เขาอาจถูกทำร้ายร่างกายในเรือนจำก่อนจะเสียชีวิต ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เหตุการณ์นี้เป็นการฆ่าตัวตายหรือการฆาตกรรมกันแน่

รายการดังกล่าวได้เชิญ พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และอดีตผู้บังคับบัญชาของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ มาร่วมพูดคุยถึงความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างกัน โดย พล.ต.ท.เรวัช เล่าว่า ในช่วงแรก อดีต ผกก.โจ้ มีศักยภาพที่โดดเด่นในการทำงาน เติบโตในหน้าที่การงานอย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถด้านภาษาและทักษะการทำงานที่ดี

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.เรวัช เปิดเผยว่า อดีต ผกก.โจ้ เคยมีปัญหาเรื่องการทำงานเมื่อเขาเริ่มคบหากับนักแสดงหญิงชื่อดัง ส่งผลให้ไม่ทุ่มเทในการทำงานและถูกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่ ศปก.ตร. ซึ่งเป็นการลงโทษที่ให้ไปนั่งประจำการเฉย ๆ เนื่องจากความไม่รับผิดชอบในหน้าที่

ทั้งนี้ พล.ต.ท.เรวัช ยังเปิดเผยว่า อดีต ผกก.โจ้ เป็นผู้ที่มีเส้นสายดี และมีทรัพย์สินมากมายถึงระดับพันล้านบาท ทำให้มีการสนับสนุนจากผู้ใหญ่บางคนในองค์กรเพื่อให้ได้เลื่อนตำแหน่ง แม้จะมีปัญหาด้านพฤติกรรมในการทำงานก็ตาม 

“โจ้นี่เส้นดี เขารวยไง เป็นพันล้าน พอโดนย้ายมาก็มี รอง ผบ.ตร. เรียกไปนั่งหน้าห้อง พอถึงเวลา ที่จะได้เลื่อนตำแหน่ง ก็มีตั๋วมา บอกว่าให้โจ้ขึ้นรอง ผกก.หน่อย ผมก็มองว่า ไอ้คนที่ทำงานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ไล่ยิงกับแก๊งค้ายา โจ้นี่อาวุโสก็น้อย แล้วงานก็ไม่สนใจทำ ผมก็ไม่ให้เขาขึ้น ผมบอกว่าผมให้ไม่ได้ ถ้าให้แล้วเสียการปกครอง”  พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร กล่าว