หลังจากที่ทีมบาสเกตบอล 3×3 กัมพูชา ใช้นักกีฬาอเมริกันโอนสัญชาติ ทีมชาย 3 จาก 4 คน และทีมหญิงเป็นอเมริกันทั้ง 4 คน ทำให้คู่แข่งในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 วิจารณ์เรื่องนี้กันอย่างหนัก
ล่าสุด “เฮียต่าย” นายนิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร นายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ถือเป็นการซื้อทีมสหรัฐอเมริกามาเลย ไม่ใช่แค่ในบาส 3×3 แต่ในบาส 5×5 ทีมชายก็มีนักกีฬาจากสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มารวมทีมกันถึง 8 คน ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะชนะได้ แต่ก็อยากให้รอลุ้นเซอร์ไพรส์ของทีมไทย ถึงจะเสียเปรียบ ก็จะให้นักกีฬาสู้กันอย่างเต็มที่ ไม่แพ้ขาดถึงขั้นโดนด่าแน่นอน
ด้านโฮเรซ ฟุค ตัม เหวียน โค้ชยัดห่วงทีมหญิงเวียดนาม กล่าวว่า รู้สึกตกใจกับสิ่งที่กัมพูชาในครั้งนี้มาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำผิดกฎหรือระเบียบของซีเกมส์แต่อย่างใด แต่ในอนาคตอยากให้มีการแก้ไขกฎเรื่องการโอกาสให้มีความชัดเจนและเหมาะสมกว่านี้
ส่วนแพทริก อาคิโน่ ผู้ฝึกสอนบาสเกตบอลทีมชาติฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เมื่อระเบียบของซีเกมส์บอกว่าสามารถโอนสัญชาติได้ ก็คงทำอะไรไม่ได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำให้ดีที่สุด คือ เตรียมทีมสู้กับทุกชาติในบาสเกตบอล 5×5 เท่านั้น เพราะพลาดแชมป์ 3×3 ไปแล้ว ก็ต้องเอาแชมป์ที่เหลือมาให้ได้
ขณะที่ โจชัว โบ เนือง นักบาสเกตบอลสายเลือดกัมพูชาแท้ๆ ที่เคยเล่นบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันผันตัวมาเป็นโค้ช กล่าวว่า หลังจากได้เห็นว่ามีการโอนสัญชาตินักบาสเกตบอลมาแข่งขันซีเกมส์ แทนที่จะใช้นักกีฬากัมพูชา ทำให้รู้สึกผิดหวังอย่างมาก เพราะการได้ร่วมงานกับนักบาสกัมพูชาในสหรัฐอเมริกา หลายคนมีพรสวรรค์อย่างมาก และบางคนก็มีความฝันอยากติดทีมชาติ มันมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้บาสเกตบอลกัมพูชาพัฒนา การออกมาโพสต์แบบนี้อาจจะสร้างความไม่พอใจและโดนโจมตีจากหลายคน แต่มันเป็นเรื่องจริง
จิมมี่ อาลาปัก ตำนานนักยัดห่วงฟิลิปปินส์ ออกมาวิจารณ์เรื่องนี้ว่า สหพันธ์กีฬาซีเกมส์ต้องทำเรื่องนี้ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ เพราะตอนนี้บอกตรงๆ ว่าเป็นมาตรฐานที่แย่มากที่ปล่อยให้ประเทศหนึ่งใช้นักกีฬาโอนสัญชาติได้ถึง 3 คนในบาสเกตบอล 3×3