อาลัย “แม่หนิง” แม่ ดร.เป็ด เหยื่อคดีแพรวา 9 ศพ หลานเผยคำสั่งเสียสุดท้ายให้นำเงินที่ได้จากคดีมาทำบ้านให้เสร็จ

(12 พ.ค.64) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลาสวดศพ ภายในวัดเกาะนัมมทาปทวลัญชาราม เขตเทศบาลเมือง ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี คุณกานติมน เชาว์ไกรหัก อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นหลานรักของแม่หนิง พร้อมด้วยญาติๆ ได้นำร่างอันไร้วิญญาณของ นางถวิล เช้าเที่ยง หรือ แม่หนิง อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ “ดร.เป็ด” หรือ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง ที่เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถตู้ตกทางด่วนเสียชีวิต 9 ศพ เมื่อปี พ.ศ.2553 ประกอบพิธีทางศาสนา โดยเมื่อวันที่ 10 พ.ค.64 ที่ผ่านมา นางถวิล เช้าเที่ยง ได้กลับมาจากการร้อยพวงมาลัยขายในตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เทศบาลเมืองราชบุรี จากนั้นเกิดหัวใจล้มเหลวจนเสียชีวิต

โดยค่ำคืนนี้เป็นการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพ “นางถวิล เช้าเที่ยง” เป็นคืนที่ 2 โดยมี น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี พร้อมด้วย นายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองราชบุรี และ ครอบครัวเจ้าของร้านเสื้อวีนัส เป็นเจ้าภาพในการประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพ โดยมีญาติสนิท และผู้ที่รู้จักกับ “นางถวิล เช้าเที่ยง” นำพวงหรีดมาร่วมไว้อาลัยและร่วมฟังพระสวดอภิธรรมศพ เพื่ออุทิศให้กับผู้วายชนม์ ทั้งนี้ ญาติจะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพอีกจำนวน 3 คืน จากนั้นจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันอาทิตย์ที่ 16 พ.ค.นี้ เวลา 15.30 น.

จากการสอบถามคุณกานติมน เชาว์ไกรหัก อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นหลานรักของ แม่หนิง หรือ ย่าหนิง เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนที่ย่าจะเสีย ได้มีญาติโทรไปบอกกับตนเองว่า ย่าหนิงหายใจติดขัด หลังจากกลับมาจากการร้อยพวงมาลัยขายในตลาดทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เทศบาลเมืองราชบุรี จึงรีบขับรถกลับมาจากกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งเรียกรถพยาบาลให้มารับเพื่อที่จะไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่พอรถมาถึงย่าหนิงก็ล้มพับไป ทางเจ้าหน้าที่พยายามช่วยปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ สาเหตุการเสียชีวิตแพทย์ระบุหลอดเลือดหัวใจตีบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจไม่ทัน ทำให้หัวใจล้มเหลวและเสียชีวิต เนื่องจากภาวะอ้วน

คุณกานติมน เล่าให้ฟังอีกว่า อย่าหนิงไม่ได้แสดงอาการใดๆให้รู้เลย ไม่มีลางสังหรณ์ใด เพราะเราคุยกันทุกวัน ย่าเป็นคนขยันออกไปร้อยพวงมาลัยขายตลอด สำหรับตนเองซึ่งเป็นหลานอีกคนที่ย่าเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก คู่กับ ดร.เป็ด ตอนนี้บอกได้สั้นๆ ว่าเสียใจมากที่ต้องสูญเสียทั้งพี่ชาย พ่อที่เพิ่งเสียไปได้ประมาณ 1 ปี และมาเสียย่าอีก หลังจากนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ที่ย่าสั่งไว้คือให้ทำบ้านให้เสร็จเพื่อให้ทุกคนได้อยู่สบาย เวลากลับมาจากที่ทำงานที่กรุงเทพ โดยนำเงินที่ได้จากคดีที่สิ้นสุดของพี่ชาย นำมาปรับปรุงบ้านซึ่งอีก 2 วันก็จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ย่าก็มาเสียชีวิตไปก่อน

ส่วนบ้านหลังนี้อยู่บนที่ดินของญาติซึ่งให้ย่าหนิงอยู่ไปจนวาระสุดท้าย หลังจากนี้ก็ต้องไปคุยกับญาติๆ ก่อนว่าจะทำอย่างไรดี จะขาย หรือ รื้อไปหาที่ปลูกใหม่ ก็ต้องดูกันในอนาคต แต่อยากทำตามความตั้งใจของคุณย่าที่ต้องการทำบ้านให้ตนและหลานๆ อยู่ ส่วนคนอื่นๆ ที่ย่าดูแลก็ต้องหาหนทางว่าจะไปอยู่ที่ใดต่อ เพราะย่าหนิงเป็นเสมือนเสาหลักของบ้าน วันนี้ย่าหนิงไม่อยู่แล้วทุกคนก็เคว้งคว้างกัน หลังจากเสร็จสิ้นงานศพก็ต้องพูดคุยกันอีกที