‘อั๋น-เจนนี่’รัก26ปีไม่มีเบื่อครอบครัวแฮปปี้ปักหลักเมกา
อาทิตย์ใส
คู่รักคนบันเทิงสุดดังแห่งยุค 90 หนุ่ม ‘อั๋น ศราวุธ’ และสาว ‘เจนนี่ เจนนิเฟอร์’ ที่ไปปักหลักใช้ชีวิตอยู่สหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยลูกสาวอีก 3 คน ‘เอวาลีน-เอลีน่า-เอมิลี่’ ล่าสุดพาครอบครัวบินกลับไทย ร่วมงานแต่งเพื่อนสนิท ‘หญิง รฐา – ตุลย์ ตุลยเทพ’
ซึ่งเป็นการกลับไทยครั้งแรกในรอบ 2 ปีกว่า โอกาสดีได้ทั้งคู่มานั่งพูดคุยถึงเรื่องราวหลากหลายในชีวิต
ได้กลับมาร่วมงานแต่ง หญิง รฐา?
เจนนี่ – “สนุกค่ะ ดีใจที่ได้มาเจอเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยทำงานร่วมกัน แฟนๆ ได้เห็นแก๊ง 2002 ราตรี มารวมตัวกันอีกครั้ง คือทุกครั้งที่มีคนแต่งงาน ก็จะมาฟีลนี้ รวมกันมาเต้นกัน”
พาครอบครัวกลับไทยในรอบหลายปี?
อั๋น – “2 ปีครึ่งเนาะ”
เจนนี่ – “จริงๆ เราก็อยากจะกลับมาก่อนหน้านี้ แต่มันติดช่วง โควิด”
ถามย้อนกลับไปทำไมตอนนั้นตัดสินใจย้ายครอบครัวไปใช้ชีวิตที่อเมริกา?
อั๋น – “จริงๆ เราย้ายไปก่อนแล้วค่อยกลับมาแต่งงาน คือแพลนจะแต่งอยู่แล้ว พอมีน้องก็แต่งเลย ตั้งแต่เด็กก็คิดตลอดว่าอยากมีลูก อยากทำธุรกิจที่เมืองนอก เหมือนกับว่าเรามองธุรกิจที่นี่ไม่ขาด ไม่รู้ว่ามันจะไปโตได้ยังไงในทางที่เราคิดไว้”
“อยู่เมืองนอกถ้าธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จ ก็อาจไปทำงานอื่นได้ ผมว่าที่ไทยทำธุรกิจค่อนข้างยาก ต้องเก่งจริงๆ ต้องมีบิสสิเนสแพลน มีอะไรที่มันพร้อมมากๆ อย่างเราชอบทำร้านอาหาร แต่ผมคิดว่าเทรนด์มันเร็วไป เปิดเยอะแล้วมาแป๊บนึงก็ปิด คาดหวังไม่ได้ ที่ดีที่รอดก็มี แต่ที่ปิดไปก็เยอะ”
เจนนี่ – “อีกประเด็นที่คิดว่าอยากไปอยู่ที่โน่น เพราะอยากจะมีครอบครัว อยู่ที่นี่ชีวิตค่อนข้างยุ่ง อยู่ที่โน่นยังพอนิ่งๆ ได้นิดนึง แล้วเจนนี่ก็กลับไปอยู่กับคุณแม่ด้วย”
ไปปักหลักใช้ชีวิตครอบครัวที่ต่างประเทศเป็นไปตามที่คาดไว้ไหม?
อั๋น – “ไปอยู่เกือบ 9 ปีแล้ว ก็เป็นไปอย่างที่อยากให้เป็น เรื่องครอบครัวก็ดีเลยแฮปปี้ ส่วนงานต่อให้ยุ่งหรือเหนื่อยก็มีความสุข คือทำอะไรมันมีปัญหาหมด แต่ว่าจะแก้กับมันยังไง”
เจนนี่ – “เราไปอยู่ก็ถือว่าเป็นเวลาที่ไม่ได้นานมาก แต่เราทำไปหลายอย่างมาก ได้ทำธุรกิจ เปิดร้านอาหาร มีลูก ย้ายคุณแม่มาอยู่ด้วย ทำให้แฮปปี้กับจุดที่มีอยู่ทุกวันนี้ค่ะ”
ค่าครองชีพที่อเมริกาเป็นยังไง?
เจนนี่ – “สูง ค่าแรงก็สูง สมมติเราเช่าอพาร์ตเมนต์ทั่วไป ประมาณ 2,000 เหรียญ ถ้าเราจัดการดีๆ แบบหาคนเช่าด้วยหาวิธีประหยัดได้ มันอยู่ได้ อาจไม่ได้เหลือมากเพราะที่โน่นจ่าย tax เยอะ แต่การจ่าย tax ของเขา ก็เห็นว่ามันได้กลับมา เขาดูแลประเทศเขายังไง ดูแลคนเขา ยังไง”
อยู่ที่อเมริกาคุณภาพชีวิตดีกว่าทั้งด้านสุขภาพ เศรษฐกิจ?
อั๋น – “มันก็ดีกว่า มันเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์เรา อย่างน้อยลูกได้เรียนในโรงเรียนที่โอเค เราทำงานเหนื่อยหน่อยไม่เป็นไร โชคดีเจนนี่เขาทำแบ๊กอัพได้ดีทุกเรื่อง เลี้ยงลูกได้ดีมาก เรื่องร้านดีมาก คุณแม่เขาก็ดีแมเนจได้คุมร้านได้ ส่วนผมก็ช่วยในจุดที่พอรู้”
ธุรกิจร้านอาหารไทยที่อเมริกา เป็นยังไง?
อั๋น – “ไปได้เรื่อยๆ ค่อยๆ ทำ สุดท้ายสิ่งที่ผมอยากได้มากที่สุดสำหรับครอบครัวคือเวลา เวลาในการที่จะทำให้ทุกคนอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ลูกทุกคนก็ไปในสิ่งที่เขาควรได้จากเรา เรื่องการศึกษา เรื่องคุณภาพชีวิต ที่เราจะต้องดูแลเขาไปจนเขาโต ที่เหลือเขาจะไป เลือกเอง นั่นคือที่ผมตั้งความหวังไว้”
เจนนี่ – “ธุรกิจที่มีอยู่มันก็ดี แล้วเราก็เรียนรู้ทุกวัน พยายามทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ร้านชื่อ อีสานไทยโซลคิทเช่น (Isarn Thai soul kitchen) อยู่รัฐวอชิงตัน เมืองซีแอตเติล มี 3 สาขา แล้วมีอีกร้านคือ ร้านกินเล่น 1 ร้าน เป็นสตรีตฟู้ดไทย ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ทอด และมีบาร์ ส่วนอันใหม่ที่จะเปิดอีกสาขาเป็น อีสานไทยโซลคิทเช่น”
ถามถึงการเลี้ยงลูก เราเลี้ยงสไตล์ไหน ผสมทั้ง 2 วัฒนธรรมตะวันออกตะวันตกเลยไหม?
อั๋น – “ผสมครับ เพราะต้องยอมรับว่าภาษาผมก็ไม่ได้เก่ง คุยภาษาไทยกับเขาตลอดบางทีเขาก็ไม่เข้าใจ เพราะเขาจะเป็นภาษาอังกฤษ เขาก็จะฟังแม่”
เด็กๆ 3 คน ใครแสบสุด?
อั๋น – “โห คนละแบบ แสบคนละแบบ เขาซนมาก บางทีก็หายไปด้วยกัน แอบเข้าไปเปิดห้องหยิบช็อกโกแลตมากินแล้วไปหลบ ไปแกะทิ้งไว้ เข้าไปแอบในเต็นท์แอบกินกัน 3 คน”
อยากจะมีลูกชายอีกสักคนไหม?
เจนนี่ – “ไม่เอาแล้วค่ะ พอแล้ว คือจริงๆ คนสุดท้ายนึกว่าจะเป็นลูกผู้ชาย แต่ว่าพระเจ้าให้เป็นลูกผู้หญิงก็โอเค ก็ดีอีกแบบนึงเพราะทุกอย่างที่ใช้มาตั้งแต่คนแรกจนถึงคนนี้คือใช้มาด้วยกันหมดเลย แล้วเลี้ยงง่ายขึ้น เพราะเป็นผู้หญิง 3 คน เขาจะได้สนิทกัน โตขึ้นมาด้วยกัน”
อยากให้ลูกเข้าวงการไหม?
เจนนี่ – “แล้วแต่เขา เราก็จะพยายามปลูกฝังในทางที่ต้องทำงาน ไม่ใช่ว่าเข้าในวงการเพราะอยากจะฟรุ้งฟริ้ง”
อั๋น – “ตัวผม สมมติเทียบอายุ 15 จะให้ลูกเข้าวงการ กับให้ลูกทำงานพาร์ตไทม์ที่โน่น ผมเลือกให้ลูกทำพาร์ตไทม์ เพราะมันค่อนข้างเอาไปใช้กับชีวิตจริงได้เยอะกว่า ถามว่าอยากเอาลูกเข้าวงการไหม แล้วแต่เขา แต่ ณ วันนี้โกล์ของเราคืออยู่โน่น ดังนั้นการเข้าวงการเขาก็จะยาก เรื่องภาษาด้วย นอกจากมาทำบ้างถ้ามีโอกาส แต่มาเต็มตัวเลย ผมไม่มีความคิดนั้น”
“มีความคิดอย่างเดียวอยากให้เขาเรียน 15-16 ยูไปทำพาร์ตไทม์เลย หาเงินใช้เลย คือทำงานวงการมันก็ดี ดีแล้วบวกกับโชคดีด้วย คือมันดีเราไม่รู้จะดีนานไหม แต่ถ้าโชคดีแล้วบวกดีด้วยเขาก็อาจอยู่ได้นาน อยู่ได้นานแล้วหลังจากนั้นจะอยู่ยังไงอีก มันหลายสเต็ป เพราะผมมีประสบการณ์จากวงการมาแล้ว รู้แพตเทิร์น แต่ถ้าเขาไปทำงานที่อเมริกาพาร์ตไทม์ เขาจะรู้ว่าเงินที่เขาได้มามันยาก มันเหนื่อยขนาดไหน”
เคล็ดลับครองคู่รักหวานชื่นยาวนาน 26 ปี?
อั๋น – “ก็ทำเหมือนเป็นเพื่อนกัน ต้องไม่ทำตัวน่าเบื่อ ครอบครัวไปเที่ยว แล้วมีออกไปเที่ยวกันสองคนบ้าง ต้องมีเหมือนเราเป็นแฟนกันเมื่อก่อน คือทำตัวให้เหมือนเดิมมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ผมว่ามันสำคัญ”
คบกันมานานเคยมีความรู้สึกเบื่อกันบ้างไหม แล้วจัดการความรู้สึกนั้นยังไง?
อั๋น – “ส่วนตัวผม ผมเหมือนเดิม ผมมองหน้าเขา ผมก็ยังรู้สึกว่า เขาสวยเหมือนเดิม”
เจนนี่ – “แน่ใจเหรอ (ยิ้ม)”
อั๋น – “พูดจริง ผมก็มองเขาทุกวัน เขาก็สวยในมุมของเขา สวยเหมือนเดิม เผลอๆ จะสวยกว่าเดิม สวยตามวัยที่ควรจะเป็น ไม่ได้แกล้งยอ ผมเป็นคนตรงๆ ถามว่าเบื่อไหม ก็เลยไม่รู้สึกว่าเบื่อไง”
เจนนี่ – “เราคบกันมาจนมีลูก 3 คน มันฟูลฟิลชีวิตเราแล้ว เรามีโกล์ในชีวิตว่าเราจะไปข้างหน้า ยังไง เรามีไดรฟ์ที่จะทำธุรกิจให้ดีเพื่อลูก”
ตอนนี้หลายคนอยากย้ายประเทศไปอยู่เมืองนอก มีคำแนะนำยังไงไหม?
เจนนี่ – “มันแล้วแต่คนด้วยว่าอยากทำธุรกิจ หรืออยากไปทำอะไร เพราะอยู่ที่โน่นไม่เหมือนเมืองไทย อยู่ที่โน่นต้องทำอะไรเอง ช่วยเหลือตัวเอง”
อั๋น – “ที่โน่นถ้าไปคนเดียว คุณต้องทนกับความเหงาโดยไม่รู้จักใคร การทำงานก็จะโหด มันไม่ได้สวยหรู คุณไปทำงานกับคนที่ไม่รู้จัก ยิ่งต่างบ้านต่างเมืองต่างวัฒนธรรม วิธีการคุย ภาษาที่ไม่เข้าใจกันก็อาจแปลผิดเพี้ยนได้ เพราะฉะนั้นเราต้องทนกับมัน ต้องเข้าใจ ถามว่าย้ายดีไหม ถ้าอยู่ตรงนี้ไม่โอเค ย้ายก็น่าลอง แต่ก็ต้องดูว่ามันต้องไปทำอะไรบ้าง”
อยากบอกอะไรกับแฟนๆ ที่ยังติดตามและชื่นชอบครอบครัวเรา?
อั๋น – “ขอบคุณที่ชอบลูกเราทั้ง 3 คน คอมเมนต์เข้ามาอยากให้โพสต์เยอะๆ ส่วนตัวเราสองคนก็จะทำในฐานะพ่อแม่ที่ดูแลลูกให้ดี ณ วันนี้ครอบครัวเราแฮปปี้ เราก็ไม่รู้หรอกวันข้างหน้าต้องไปเจออะไรใหม่ แต่เราจะรับสิ่งที่มันเกิดขึ้นยังไงไม่ว่าเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี เราก็ต้องถ่อมตนและเข้าใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้น”
เจนนี่ – “ก็ต้องขอบคุณทุกคนด้วยนะคะที่ติดตามครอบครัวเรา จริงๆ เราก็เป็นครอบครัวธรรมดา พยายามจะโพสต์อัพเดตเรื่อยๆ แต่บางทีชีวิตวุ่นวายมากเลยค่ะกับเด็กสามคน (หัวเราะ) หลายคนเจอปัญหาเรื่องโควิด ธุรกิจ ก็อยากเป็นกำลังใจให้ ทุกคนโดนหมดบนโลกนี้ รักษาสุขภาพตัวเอง พยายามอย่าไปโฟกัสกับมัน หาทางออกให้ได้ เพราะตัวเราก็พยายามหาทางออกอยู่นานเหมือนกัน”
วีรนุช จันทำ