ชาวบุรีรัมย์ แห่ซื้อหมวกไหมพรมผ้าพันคอ และเสื้อกันหนาวมือสอง ตามตลาดนัด กันอย่างคึกคัก หลังอุณหภูมิลดต่ำต่อเนื่อง พ่อค้าแม่ค้าขายยอดพุ่งวันละ 1-2 หมื่นบาท
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวจ.บุรีรัมย์ แห่เลือกซื้อหมวกไหมพรม ผ้าพันคอ และเสื้อกันหนาวมือสองตามตลาดนัดอย่างคึกคัก เพื่อนำไปสวมใส่สร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย หลังสภาพอากาศหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดวันนี้อุณหภูมิลดต่ำอยู่ที่ 17 องศาเซลเซียส
บางคนก็เลือกซื้อไป 4-5 ตัว เพื่อกักตุนไว้สวมใส่เนื่องจากเสื้อกันหนาวมือสองมีราคาถูกกว่าเสื้อผ้าใหม่ตามห้างร้านหลายเท่า คาดว่าปีนี้จะหนาวนานกว่าหลายปีที่ผ่านมาจึงซื้อกักตุนเอาไว้ เพราะเกรงว่าหากอากาศหนาวเย็นจัดกว่านี้ เสื้อมือสองก็อาจจะปรับขึ้นราคา ส่งผลให้ช่วงนี้พ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองมีรายได้เฉลี่ยวันละ 1-2 หมื่นบาท
นางวนิดา ธนเจริญโชติ แม่ค้าขายเสื้อผ้ามือสอง ที่ตลาดนัดหน้าที่ว่าการอำเภอ เปิดเผยว่า หลังจากสภาพอากาศหนาวเย็นลง ก็มีข้าราชการ ประชาชน และนักเรียน นักศึกษามาเลือกซื้อทั้งหมวกไหมพรม ผ้าพันคอ และเสื้อกันหนาวมือสองคึกคัก โดยหมวกไหมพรมและผ้าพันคอก็จะเริ่มต้นที่ใบละ 35 บาท 3 ใบ 100 บาท
ส่วนเสื้อกันหนาวก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ตัวละ 20 บาท ถึง 500 บาท ขึ้นอยู่กับเกรดของเสื้อผ้า และต้นทุนที่รับมา ซึ่งปีนี้เสื้อกันหนาวมือสองขายดีกว่าปีที่ผ่านมามากกว่าเท่าตัว และคาดว่าปีนี้จะหนาวจัด และหนาวยาวนานกว่าหลายปีที่ผ่านมา ก็จะส่งผลดีกับพ่อค้าแม่ค้าขายเสื้อผ้ามือสอง ทำให้สามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง