จากข่าวการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อเวลา 00.32 น. วันศุกร์ ที่ 9 กันยายน 2565 (ตามเวลาประเทศไทย) นั้น ทำให้ตอนนี้อังกฤษเข้าสู่การขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และมีผลให้คำถวายพระพรและเพลงชาติของอังกฤษ เปลี่ยนจาก God Save the Queen เป็น God Save the King
ทางด้านลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรที่ได้รับแต่งตั้งจากควีนเป็นคนสุดท้าย และเพิ่งได้เข้าเฝ้าเมื่อวันที่ 6 ก.ย. เปิดแถลงที่ทำเนียบเลขที่ 10 ถนนดาวนิง กล่าวไว้อาลัยและสดุดี โดยระบุว่า “ควีนทรงปกครองสหราชอาณาจักรให้มีเสถียรภาพและแข็งแกร่ง ตลอดพระชนม์ชีพ พระองค์เสด็จเยือนดินแดนต่าง ๆ มากกว่า 100 ประเทศ ทรงเป็นที่เทิดทูนของผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก
วันนี้ เป็นการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน ดังที่เป็นมานานเกินกว่าหนึ่งพันปี ราชวงศ์ของเรามีองค์พระประมุขใหม่ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3″
สำหรับ พระเจ้า คิง ชาร์ลส์ ที่ 3 พระชนมพรรษา 73 พรรษา เป็นพระราชโอรสองค์โตของ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป มีพระขนิษฐา 1 พระองค์คือ เจ้าหญิงแอนน์ และพระอนุชา 2 พระองค์ คือเจ้าชายแอนดรูว์ และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด
ในพระราชพิธีฉลองควีนครองราชย์ครบ 70 ปีเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ควีนทรงมีพระราชกระแสรับสั่ง หวังให้คามิลลาขึ้นเป็นราชินี เคียงข้างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เมื่อขึ้นครองราชย์
อย่างไรก็ตาม หลังควีนเสด็จสวรรคตวันที่ 8 กันยายน คำที่ใช้เรียก คามิลลา ในนาทีที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงขึ้นเป็นกษัตริย์ พระเจ้าชาร์ลส์ ที่ 3 ยังคงเป็นคำว่า queen consort ซึ่งหมายถึงราชินีคู่สมรส
ทั้งนี้ราชวงศ์อังกฤษถือเป็นราชวงศ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุยาวนานกว่าพันปี ตามสถิติระบุว่า ราชวงศ์อังกฤษจะมีรัชทายาทพระองค์ใหม่ประมาณ 30 ปีต่อ 1 พระองค์ แต่การขึ้นครองราชย์อาจต้องใช้เวลารอคิวนานมาก จนกว่าประมุของค์ปัจจุบันจะสวรรคตหรือสละราชบัลลังก์
ขอบคุณข้อมูลจาก BBC
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY