วันที่28 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้เดินทางไปที่ สำนักสงฆ์ซำป่าหัน ตำบลบ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี หลังทราบว่าได้มีสร้างโลงแก้ว ให้กับลูกศิษย์ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่าระบุในวันที่ 30 ตุลาคม จะเป็นวันละสังขารหรือวันตายของศิษย์คนดังกล่าว โดยได้มีการสร้างโลงแก้ว เป็นศาลากลางแจ้ง ใกล้กับศาลาการเปรียญ ภายในสำนักสงฆ์ ได้แล้วเสร็จไปแล้ว 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งพบ พระอาจารย์สุนิตร อินทะคุตโต เจ้าสำนักสงฆ์ซำป่าหัน ซึ่งมีลูกศิษย์ ช่วยกันตกแต่งปรับปรุงสถานที่การสร้าง และทาสีป้ายสำนักสงฆ์ใหม่
พระอาจารย์สุนิตร อินทะคุตโต เปิดเผยว่า ได้สร้างโลงแก้วตั้งแต่วันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ตอนนี้เสร็จไปประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว โลงแก้วนี้เอาไว้รองรับสรีระผู้ที่จบกิจทางศาสนาของพระพุทธเจ้า พูดง่ายๆ คือคนที่เป็นพระอรหันต์นั่นเอง คนที่ศึกษามาจะรู้อยู่แล้ว ก็จะมีโลงแก้วใส่ร่างแบบนี้ ใส่เอาไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่า ร่างกายจะไม่เน่า อยู่ได้ประมาณ 1 เดือน เหมือนคนนอนหลับไป ซึ่งแบบในการสร้างโลงแก้วพระอาจารย์ได้ทำการศึกษามา รวมทั้งสอบถามชาวบ้าน ควรเป็นเช่นไร
ส่วนเงินค่าสร้างได้มาจากผู้ที่จะละสังขารเป็นคนบริจาคเงินให้ สรีระนี้จะมา วันที่ 30 ต.ค.64 จะมีคนที่ละสังขาร ประมาณ 1 เดือนร่างกายจะเปลี่ยนเป็นพระบรมสารีริกธาตุ สำหรับบริเวณนี้จะทำเป็นสวนหย่อมให้ผู้คนได้ชื่นชมบารมี และจะมีการสอนธรรมว่า ผู้ที่ละสังขารปฏิบัติธรรมอย่างไร ถึงเป็นแบบนี้ได้ การรู้ล่วงหน้าเรื่องละสังขาร บางคนก็รู้กันอยู่ เหมือนกับการดูดวง อาตมาอยากให้ไปศึกษากันก่อนที่จะวิจารณ์ในทางไม่ดี
ส่วน นายไชยยา โคตรมณี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านจีต ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี กล่าวว่า ตนเคยไปกราบทำบุญที่สำนักสงฆ์ ปีละ 1 ครั้ง ไปตามที่เทศบาลจัดงานทำบุญขึ้น ตอนนั้นก็ไม่ได้เข้าไปที่สำนักสงฆ์ ยอมรับว่าไม่รู้เรื่องสร้างโลงแก้วมาก่อน ตนก็เลยไม่ได้ไปตรวจสอบ ส่วนใหญ่ลูกศิษย์ที่ไปกราบไหว้ ก็จะเป็นคนในละแวกใกล้เคียง หมู่ 5-6 สำหรับเรื่องสร้างโลงแก้ว ตนไม่รู้ว่าสร้างขึ้นไปเพื่ออะไร และยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าไปตรวจสอบ ส่วนตัวก็ไม่เคยเข้าไปคลุกคลี จึงไม่รู้ว่านิสัยใจคอเจ้าสำนักเป็นอย่างไร
ทาง ด้านนางดาลัน หิรัญไพบูลย์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดอุดรธานี ได้กล่าวว่า เพิ่งทราบเรื่องว่ามีสำนักสงฆ์ สร้างโลงแก้ว ก็จะดำเนินการเข้าไปตรวจสอบ ข้อเท็จจริง เป็นเช่นไร ว่ามีการสร้างโลงแก้ว เพื่ออะไร