อะไรกันนี่ สาวถูกรถชน อีก 10 วัน คดีหมดอายุความ ต้องหอบสังขารไปโรงพักทั้งเตียง

Home » อะไรกันนี่ สาวถูกรถชน อีก 10 วัน คดีหมดอายุความ ต้องหอบสังขารไปโรงพักทั้งเตียง
อะไรกันนี่ สาวถูกรถชน อีก 10 วัน คดีหมดอายุความ ต้องหอบสังขารไปโรงพักทั้งเตียง

สาวถูกรถบรรทุกเฉี่ยวชน เจ็บหนัก หอบสังขารไปโรงพักทั้งเตียง หลังอีกแค่ 10 วัน คดีจะหมดอายุความ แถมยังถูกแจ้งข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียว

จากกรณี เฟซบุ๊กแฟนเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 ได้โพสต์ภาพผู้ป่วยหญิงรายหนึ่ง สภาพนอนอยู่บนเตียงและร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลซึ่งอยู่ระหว่างการรักษาตัว พร้อมข้อความระบุว่า “เหตุใดต้องมาติดตามคดีด้วยสภาพแบบนี้ ระเบียบตำรวจเป็นอย่างไร?”

ล่าสุด วานนี้ (17 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านพักของหญิงสาวรายนี้ ที่หมู่บ้านพระปิ่น 3 และพบคนเจ็บรายนี้ทราบชื่อคือ น.ส.บัวรัตน์ คุชิตา เพื่อสอบถามเรื่องราวและได้รับการเปิดเผยว่า ตนเองเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่

โดยทางตำรวจติดต่อเพื่อให้มาสอบปากคำเพิ่มเติม ในคดีที่เธอขับรถจักรยานยนต์แต่เกิดอุบัติเหตุถูกรถบรรทุกเฉี่ยวชน เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2563 เพราะทราบว่าคดีกำลังจะหมดอายุความในอีกประมาณ 10 วัน

เมื่อไปถึง สภ.บางใหญ่ เจ้าหน้าที่พยายามให้เธอลุกไปนั่งเก้าอี้เพื่อปั๊มลายนิ้วมือ แต่เธอบอกว่าลุกไม่ได้ ซึ่งทางด้านทนายความของเธอที่เดินทางตามมาทีหลัง จึงได้บอกให้ตำรวจถ่ายภาพประกอบสำนวนคดีการสอบสวนแทน

น.ส.บัวรัตน์ ย้ำว่า ส่วนตัวอยากให้ตำรวจส่งเรื่องฟ้องไปเลย และอยากได้ความชัดเจนในคดีนี้ เพราะที่ผ่านมาคดีกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งที่เธอเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งล่าสุดเธอยังถูกตำรวจแจ้งข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียว แต่ก็ไม่ทราบว่าทางคู่กรณีถูกดำเนินคดีในความผิดฐานอะไรบ้าง

สำหรับอุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนปีที่แล้ว โดยระหว่างที่เธอกำลังขับรถจักรยานยนต์อยู่บนถนนในเลนขวา ปรากฎว่ามีรถบรรทุกขับเบี่ยงมาเฉี่ยวชน ทำให้รถจักรยานยนต์ล้มคว่ำและร่างของเธอหล่นไปอยู่ใต้รถบรรทุก

จนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื้อตัวถลอกทั้งตัว กระดูกขาหัก ต้องนอนรักษาตัวที่ห้องไอซียู เป็นเวลานานถึง 1 เดือน จากนั้นได้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่อเนื่องอีก 3 เดือน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลประมาณ 4 ล้าน 5 แสนบาท โดยที่ฝั่งคู่กรณีไม่ได้มาช่วยรับผิดชอบใดๆ

ซึ่งระหว่างรักษาตัวจนอาการดีขึ้น ตนเองโทรถามตำรวจว่าจะต้องไปให้ปากคำอย่างไร แต่ตำรวจแจ้งว่ารอให้หายก่อนค่อยมา แต่เธอกังวลใจจึงให้กู้ภัยพาไปพบตำรวจเพื่อตามคดีเองครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2564 จากนั้นทราบว่าคดีจะหมดอายุในเร็วๆ นี้ จึงเกิดความร้อนใจทำให้ต้องไปติดตามความคืบหน้าคดีอีกครั้งแต่ก็เหมือนเดิม จึงโพสต์เรื่องราวในโลกออนไลน์

ด้าน นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายจิตอาสา กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนในเรื่องนี้ เบื้องต้น ทราบว่าน้องเขานอนเจ็บมานานเป็นปี แถมยังต้องมาตกเป็นผู้ต้องหาขับรถประมาทหวาดเสียว ซึ่งข้อหานี้ก็แค่ปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่อยากให้ทางตำรวจตรวจสอบให้แน่ชัดว่าสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุมาจากอะไร ตอนนี้ทราบว่าตำรวจจะส่งตัวฟ้องอัยการ ก็ไม่รู้ว่าจะส่งตัวอย่างไรในสภาพแบบนี้ 

ส่วน นายธีระพล สิงจานุสนธ์ อายุ 32 ปี สามีของคนเจ็บ เผยว่า ตนเองถ่ายคลิปในวันนั้นเพราะต้องจ้างรถกู้ภัยนำภรรยาในสภาพที่เห็นไปให้ปากคำตำรวจ ส่วนตัวเองก็ไม่เข้าใจทำไมตำรวจไม่มาสอบปากคำที่ รพ.หรือที่บ้าน ภรรยาตนเจ็บปางตายขนาดนี้กับตกเป็นผู้ต้องหา ตนเกรงว่าคดีจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ