ออย ธนา คิดอยากบวช ปล่อยวางทางโลก เผย ห่วงความรู้สึกลูก โสดไม่คิดมองใคร
ออย ธนา คิดอยากบวช / สิ้นสุดความสัมพันธ์สามีภรรยา ‘ออย’ ธนา อาจาริยางกูล และ ‘เธอ’ รวรีย์ ทองคำกูล หลังออกมายอมรับว่าขาเตียงหัก ด้วยปัญหาส่วนตัวภายในครอบครัว ตัดสินใจแยกทางกัน เปลี่ยนสถานะเป็นคนโสด แต่ยังคงทำหน้าที่เป็นพ่อแม่ที่ดีเลี้ยงน้องรีนา
ล่าสุด(6 มิ.ย.65) ออย ธนา เดินทางมาร่วมงานบวงสรวงละครมงกุฏกรรม ซึ่งภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตความโสดที่ตั้งใจเอาไว้ว่าอยากจะบวช พร้อมเผยถึงการแบ่งเวลาในการเลี้ยงลูกสาวหลังแยกกันอยู่กับอดีตภรรยา
ก่อนหน้านี้คนเข้าใจผิดว่าบวช? “ครับ แต่งครับ เหมือนคนใส่วิกทั่วไป ที่ผมพูดถึงก่อนหน้านี้ผมไม่เคยอยากบวชเลย แล้วก็ไม่ค่อยเข้าวัด ไม่ค่อยทำบุญเพราะผมมีความรู้สึกว่ามันไม่เห็น แล้วเราก็รู้สึกว่าเราไปทำในสิ่งที่เราสบายใจดีกว่า ผมเลยไม่ไหว้พระ ไม่ค่อยเข้าวัด แต่วันนั้นพอผมเข้าใจ เฮ้ย พอเราได้ทำอะไรแบบนั้นมันก็รู้สึกทำไมไม่รู้มันอยากบวชขึ้นมาจริงๆ หลังจากนั้นผมก็ไปคุย เคลียร์กับผู้จัดการว่าอยากบวชแล้ว เราอยากเคลียร์งาน แต่มันติดไปหมด พอเราจะไปบวชมันก็ติดนู่นติดนี้ไปหมด ก็เรื่องประมาณนี้ครับ”
แล้วมีแพลนว่าจะบวชไหม? “มีครับ แต่ว่าผมติดงานเรื่องที่ถ่ายปัจจุบันอยู่ก็จะบวชก่อนที่จะถ่ายผมก็ยาวไม่ทัน หรือว่าถ่ายจบแล้วผมจะยังอยากบวชอยู่ไหม ผมก็รู้สึกว่ามันก็หายไปแล้วอ่ะ มันเหมือนมีไฟการที่เราจะทำอะไรพอมันห่างไปเรื่อยๆ มันก็ลืม ความอยากมันไม่เท่าตอนนั้น”
ดังนั้นตอนนี้ความรู้สึกยังอยากบวชอยู่ไหม? “นี่ลืมไปแล้ว (หัวเราะ) ถ้าไม่พูดนี่ลืมไปแล้ว พอเรามานั่งคิดว่าความสบายของเรา เฮ้ย มันสบายมากไปอยู่ในนั้นไม่ต้องคิดอะไร ไม่มีภาระหนี้สิน ไม่มีเรื่องที่จะต้องมาวุ่นวายรายเดือน จ่ายนู่นจ่ายนี้มันสงบ ผมรู้สึกว่ามันสบายจังเลย อ๋อ รู้แล้วทำไมคนถึงบวชกัน แล้วมันก็สบายใจแต่พอกลับสู่โลกแห่งความจริงชีวิตคนเราต้องทำอะไรเยอะ มันมีอะไรที่ต้องรับผิดชอบ มันก็ทำให้เรื่องไม่ต้องคิดเยอะ”
มีความคิดจะลองปฏิบัติธรรมไหม? “ไม่เคยเลย ผมไม่เชื่อเท่าไหร่ ผมเชื่อในสิ่งที่ทำมากกว่า นั่งสมาธิหรืออะไรผมไม่เก็ตเท่าไหร่ ไม่เข้าใจ”
ถ้ามีโอกาสได้บวชจริงๆ จะบวชนานไหม? “มีคนเคยบอกว่าถ้าผมเข้าใจมัน อาจจะไม่สึกก็ได้เพราะว่ามันสบาย ถ้าเอาแบบคนไม่รู้เรื่องในธรรมะ จริงๆ ผมว่าการที่เราอยู่ทุกวันนี้ เราเอามาแบกเอง สุดท้ายก็วุ่นวายกับชีวิตเราเอง เรามีค่าน้ำค่าไฟ ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ กินนู่นกินนี่อะไรแบบนี้ เราต้องการเองทั้งหมดเลย แล้วเราก็รู้สึกว่ามันวุ่นวายเพราะสิ่งที่เราอยากเป็นหนี้สิน แต่พอเป็นพระมันไม่มีเลย มันเหมือนกับวางทุกอย่างไปเลย แล้วเรารู้สึกว่ามันสบายมากไม่ต้องคิดอะไร แล้วก็มารู้สึกว่ามันสบายใจ”
ตอนนั้นเหมือนเราไปเจอเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ? “ไม่หรอก ผมรู้สึกว่าบรรยากาศตอนนั้นแล้วก็ความรู้สึกว่าผมเคยบวชแล้ว แล้วมันก็รู้สึกว่ามันเป็นทางๆ หนึ่งที่ทำให้คนได้พักสมอง ไม่ต้องคิดเรื่องกับชีวิตที่ต้องเป็นแบบวัฏจักร เพราะเราต้องกินต้องใช้ต้องทำงานเพื่ออะไรเพื่อสิ่งนู่นสิ่งนี้ทุกอย่าง แต่พอไปทางนู้น ผมรู้สึกว่ามันหยุดทุกอย่าง เหมือนพักผ่อน”
มันเกี่ยวกับเรื่องชีวิตคู่ตอนนั้นด้วยหรือเปล่า ที่ทำให้เราเข้าถึงมุมนั้น? “ไม่เกี่ยว (ยืนยันว่าไม่เกี่ยว) ไม่เกี่ยว ผมแค่รู้สึกว่าลองคิดดู หลังจากลองนั่งใส่วิกมาหลายชั่วโมงแล้วก็ไปนั่งใส่ผ้าเหลืองดู มานั่งคิดว่าทำไมคนบวชเพราะอะไร อ๋อ เพราะมันสบาย เพราะมันพักทุกอย่างวางสิ่งที่เราเอามาเอง ผมเคยเห็นคำสอนของในวัด เขียนสอนคนว่าถือก็หนักวางก็เบามันก็จริง เราก็เอามาถือเอง วางลงก็เบา แค่นั้นเอง”
ถึงวันนี้ทุกอย่างก็เรียบร้อยหมดแล้ว? “ใช่ครับ ตอนนี้ก็แยกกันอยู่ นี่สิ่งที่อยากถามใช่ไหม (หัวเราะ) ไม่เป็นไรครับ (ยิ้ม) ก็ชัดเจนครับ คือตอนนี้เราก็มีหน้าที่อย่างเดียวคือเป็นพ่อและแม่ ก็หาวิธีการตกลง ไกล่เกลี่ยในแบบศาลปิด ก็ช่วยกันดูแลเขาให้ดี เขาก็มุ่งประเด็นไปที่เด็ก ฝ่ายพ่อแม่เป็นไงเขาไม่ได้มอง ประเด็นหลักคือเขาอยากให้เด็กมีประโยชน์ที่สุดได้ความสำคัญที่สุด แล้วเด็กต้องมีพ่อแม่ช่วยกันดูแล เขาก็จะมีการแบ่งวันกันดูแลชัดเจนแล้วก็ดูแลให้ดีที่สุด”
น้องก็อยู่กับคุณแม่เป็นหลัก? “ไม่ใช่ครับ แบ่งกันครับ (เป็นวัน?) ใช่ครับ ชัดเจน มีกำหนดในข้อกฎหมาย” (พอบอกได้ไหมแบ่งวันยังไง?) “ไม่ต้องลงดีเทลดีกว่า”
ในเรื่องของความรู้สึกของน้อง เรากังวลขนาดไหน? “มันแน่นอนมีอยู่แล้ว พอมันเป็นสิ่งที่เราไม่ได้อยากให้เกิดขึ้นหรือเราเรียกว่ามันเป็นอุบัติเหตุในชีวิตเรา เป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้เกิด เราอยากทำให้มันดีที่สุด แต่วันหนึ่งมันเกิดขึ้นแล้ว เราไม่ต้องคิดแล้วว่ามันเกิดขึ้นทำไม เราคิดดีกว่าว่าเราจะทำไงต่อไปให้ดี”
ทุกวันนี้น้องมีคำถามไหมที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้า? “ผมเชื่อว่าเขามีในใจ แต่เขาพูดไม่ถูก มันซับซ้อนเกินไปสำหรับเด็ก 8 ขวบ แต่เด็ก 8 ขวบบางคนอาจจะรู้เรื่องแล้ว แต่ว่าอย่างลูกผมเขาก็คงรู้สึกข้างในแหละว่าเขาเป็นอะไรแต่เขาพูดไม่ได้ เขาพูดไม่เป็นก็เลยจะเงียบๆ แบบผม”
ในแง่ของเรามุมมองความรักเปลี่ยนไปเยอะไหมตอนนี้? “ก็ไม่ได้มองแล้ว ผมมองไปที่ว่าเราจะทำยังไงต่อไปให้มันดี” (ไม่ได้มองเรื่องชีวิตคู่?) “ไม่ได้มองครับ ตอนนี้ก็ดูสถานการณ์แล้วก็ดำรงชีวิตต่อไป ช่วยกันดูแลเด็ก ส่วนเรื่องความรักผมเลิกมองไปสักพักแล้ว”
ขอบคุณรูปจากไอจี oilthana