ตำรวจขอศาลอนุมัติหมายจับ 4 ผู้ต้องหาคดี “น้องฝ้าย” สาวรับงานเอนเตอร์เทน เสียชีวิตปริศนา ข้อหายาเสพติด ส่วนอีก 4 คน ตำรวจแจ้งข้อหามั่วสุม
วานนี้ (18 พ.ค.) ที่ สภ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี มีการแถลงข่าวคดี “น้องฝ้าย” วัย 25 ปี สาวรับงานเอนเตอร์เทนที่บ้านลูกค้าใน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี กับกลุ่มเพื่อนสาว แต่ภายหลังกลับเกิดอาการช็อกจนต้องหามส่ง รพ. คืนวันที่ 8 พ.ค. ต่อเนื่อง วันที่ 9 พ.ค. และไปเสียชีวิตในวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง
พลตำรวจตรี ชมชวิณ ปุระธนานนนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ ชูนาค รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นหัวหน้าทีมสอบสวนร่วมกับผู้กำกับบางปลาม้า เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและพนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานจนครบทุกมิติ
จากนั้นได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่ก่อเหตุจำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายเอ เจ้าของบ้าน, นายเพชร, นายโอม ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) มียาเสพติดประเภทที่ 2 (มอร์ฟีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และ น.ส.ฟร๊อง ถูกแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 2 (ยาอี) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ส่วนนายหยิก และ น.ส.แนท ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ
ส่วน น.ส.พิ้งค์ และ น.ส.พร ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือทำกิจกรรมที่มีการรวมคนที่มีความแออัดในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ร่วมกันฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อและร่วมกันเสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย
ขณะที่ นายบอล (นามสมมติ) พ่อของหนึ่งใน 4 ของกลุ่มผู้ว่าจ้างสาวเอนเตอร์เทน เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปลาม้า สอบปากคำลูกชายของตนและเพื่อนของลูกชาย นานจนถึงเวลาประมาณ 01.00 น. และตรวจปัสสาวะของลูกชายตนผลตรวจไม่มีสารเสพติด
ซึ่งลูกชายตนยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอตรวจเลือดลูกชายของตนด้วย ซึ่งตนก็ยินดีหากลูกชายตนจะถูกแจ้งข้อหาเกี่ยวกับการเสพยาเสพติด และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนก็ต้องทำใจ และช่วยกันหาทางออก
ส่วนการเจรจากับครอบครัวผู้ตาย แม่ของผู้ตายเรียกเงินจากกลุ่มผู้ชาย คนละ 200,000 บาท แต่ตนรู้สึกว่าจำนวนเงินนั้น เยอะเกินไป ตนอยากให้แต่ละฝ่ายพูดคุยกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่คุยกันเฉพาะตัวเงินเพียงอย่างเดียว เนื่องจากตนคิดว่าลูกชายของตนไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตาย