ข้าวโพดย่างกับปัญหาสุขภาพ เมนูฮิตฤดูหนาวที่อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน แล้วใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง?

ในฤดูหนาว ข้าวโพดต้มและข้าวโพดนึ่งกลายเป็นของว่างยอดนิยมของหลายคน เนื่องจากทั้งอุ่นร้อน อร่อย และหาทานง่าย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเพลิดเพลินกับเมนูนี้ได้ตามใจปาก โดยเฉพาะในวันที่อากาศหนาวเย็น

โดยต่อไปนี้คือ 5 กลุ่มคนที่ “ไม่ควร” กินข้าวโพดในฤดูหนาว เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีที่สุด ตามรายงานเว็บไซต์ข่าวของ Đài Tiếng Nói Việt Nam (VOV) หรือ สถานีวิทยุเวียดนาม

ผู้ที่มีระบบย่อยอาหารอ่อนแอ

ข้าวโพดมีเซลลูโลสซึ่งเป็นไฟเบอร์ที่ย่อยยาก การทานข้าวโพดมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืด ย่อยยาก โดยเฉพาะในผู้ที่มีระบบย่อยอาหารอ่อนแอ ในฤดูหนาว ระบบการย่อยอาหารมักลดลงเนื่องจากอุณหภูมิที่ต่ำ ทำให้การทานข้าวโพดอาจทำให้เกิดปัญหาทางเดินอาหารได้ง่ายขึ้น

ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือลำไส้ใหญ่อักเสบ

ข้าวโพดอาจกระตุ้นเยื่อบุในกระเพาะอาหาร เพิ่มการหลั่งกรดในกระเพาะ ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่มีโรคกระเพาะอาหารหรือลำไส้แปรปรวนรู้สึกไม่สบาย อีกทั้งข้าวโพดยังมีไฟเบอร์ที่ย่อยยาก ซึ่งอาจเพิ่มภาระให้กับกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคลำไส้อักเสบ ควรหลีกเลี่ยงข้าวโพด เนื่องจากเซลลูโลสในข้าวโพดย่อยยาก อาจทำให้แผลในลำไส้ใหญ่อักเสบ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน

ข้าวโพดโดยเฉพาะชนิดหวาน หรือข้าวโพดที่ผ่านการแปรรูป มีค่าดัชนีน้ำตาล (GI) ค่อนข้างสูง ซึ่งหมายความว่าเมื่อทานข้าวโพด ร่างกายจะเปลี่ยนแป้งในข้าวโพดให้เป็นกลูโคส ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การเพิ่มขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น โรคหัวใจ โรคไต ระบบประสาท และภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ

ผู้ที่ขาดแคลเซียมและธาตุเหล็ก

ข้าวโพดมีกรดไฟติกที่สามารถจับกับธาตุเหล็กในอาหาร ทำให้ร่างกายยากที่จะดูดซึมธาตุเหล็ก กรดไฟติกจะจับกับธาตุเหล็กในระหว่างการย่อยอาหารและทำให้มันกลายเป็นสารประกอบที่ไม่สามารถย่อยได้ ทำให้เกิดอาการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งอาจทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย วิงเวียน หน้ามืด ผิวซีด หายใจลำบาก และอาจถึงขั้นเกิดภาวะร่างกายอ่อนแอ

ผู้ที่มีอาการแพ้โปรตีนในข้าวโพด

บางคนอาจมีอาการแพ้โปรตีนในข้าวโพด เมื่อผู้ที่แพ้รับประทานหรือสัมผัสข้าวโพด ระบบภูมิคุ้มกันจะเข้าใจผิดว่าโปรตีนในข้าวโพดเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายและปล่อยสารภูมิต้านทานออกมาเพื่อต่อสู้กับมัน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งมีหลายรูปแบบตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง เช่น ผื่นลมพิษ คันทั่วตัว หายใจลำบาก บวมที่ปาก ความผิดปกติลิ้นหรือคอ และในบางกรณีอาจรุนแรงถึงขั้นช็อกจากการแพ้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต

• หมอย้ำ 4 อาหาร “ไม่ควร” กินพร้อมหัวไชเท้า แต่หลายบ้าน-หลายร้าน ยังต้มรวมหม้อเดียวกัน!
• หมอกางผลทดลอง “กะหล่ำ” ป้องกันมะเร็ง-ลดความดันโลหิต ดีเทียบเท่ากินยา จริงหรือ?!