บิ๊กตู่ ลั่นอย่าเห็นแก่ตัว อ้างน้ำมันแพง ขยับราคาสินค้าอื่น สั่งระงับส่งออกหมู หากจำเป็นให้นำเข้า ดับฝันแรงงานขอขึ้นค่าแรง ถามจะเอาเงินมาจากไหน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 ม.ค.2565 ที่กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาราคาสินค้าที่พุ่งสูง โดยเฉพาะเนื้อสุกรว่า ขณะนี้ได้มีการสำรวจแล้วตั้งแต่ทางว่า ปัญหามันอยู่ที่ไหน อย่างไร ปัญหาคือมีปริมาณเพียงพอหรือไม่ เมื่อไม่เพียงพอ จะจัดหาเพิ่มเติมได้จากที่ไหน เช่น หมูถ้าจำเป็นก็ต้องนำเข้าและระงับการส่งออก ขณะเดียวกันหน่วยงานเกี่ยวข้อง ต้องไปผลิตลูกหมูออกมา ส่งเสริมผู้ค้าหมูรายย่อย ต้องไปสำรวจอีกว่ามีหมูที่เก็บไว้ในสต๊อก มีการแช่แข็งไว้เท่าไรที่รอการส่งออก ก็ต้องระงับการส่งออกทั้งหมด เพื่อให้ปริมาณหมูมีมีเพียงพอต่อการใช้ในประเทศ ต้องแก้ปัญหากันแบบนี้
“หมูตายก็สร้างหมูใหม่ขึ้นมา เพาะพันธุ์ใหม่ขึ้นมาให้เพียงพอ ปัญหาสำคัญที่สุด การแพร่ระบาดในครั้งนี้ มีการแพร่ระบาดในบางพื้นที่และเป็นจุดๆไป ไม่ได้แพร่ระบาดทั่วประเทศ ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย และการตายมีประมาณไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ แต่ทำไมหมูถึงขาด แสดงว่ามันเกิดอะไรขึ้นในกระบวนการ มีคนไปทำอะไรหรือเปล่า อีกทั้งหลายๆอย่างก็พยายามขึ้นราคาตาม ขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลที่สมควร ผมจึงสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ ถ้าไม่ถูกต้องตามกฎหมายก็ให้ร้องเรียนมายังสคบ.” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่ามีการอ้างว่าจำเป็นต้องขึ้นราคาสินค้า เพราะหลายๆอย่างก็ขึ้นราคาทั้งหมดโดยสืบเนื่องมาจากราคาน้ำมันด้วย นายกฯ กล่าวว่า ถ้าจะขึ้นราคาแล้วมีเหตุผลสมควร ก็คงไม่มีอะไร แต่ขอร้องว่า อย่าทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากก็แล้วกัน ต้องไปคำนวณที่ต้นทุน ไม่ใช่ราคาน้ำมันขึ้น 1 บาทหรืออะไรขึ้นแค่บาทเดียว แล้วไปขึ้นราคาสินค้าอื่น 5 บาท เอาเหตุผลอะไรมาขึ้นตั้ง 5 บาท ตนไม่เข้าใจ ขออย่าเห็นแก่ตัวกันในเวลานี้
เมื่อถามว่าราคาสินค้าเกือบทั้งหมดขึ้นหมดแล้ว ค่าแรงขั้นต่ำจะขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “เอาเงินมาจากไหนล่ะ เธอพูดได้หมด แต่เธอต้องหาเงินมาให้ได้ก่อน รัฐบาลจะต้องมีเงินก่อน”