อย่าหาทำ! แพทย์เตือน "เส้นผม" แยงท่อน้ำตาอันตราย เสี่ยงติดเชื้อถึงโพรงจมูก

Home » อย่าหาทำ! แพทย์เตือน "เส้นผม" แยงท่อน้ำตาอันตราย เสี่ยงติดเชื้อถึงโพรงจมูก


อย่าหาทำ! แพทย์เตือน "เส้นผม" แยงท่อน้ำตาอันตราย เสี่ยงติดเชื้อถึงโพรงจมูก

อย่าหาทำ! แพทย์เตือน “เส้นผม” แยงท่อน้ำตาอันตราย เสี่ยงติดเชื้อถึงโพรงจมูก เป็นแผลที่กระจกตาดำ ย้ำหากมีอาการผิดปกติควรพบจักษุแพทย์

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2565 ศ.วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ หัวหน้าศูนย์ตาธรรมศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในฐานะประประธานวิชาการและกิจกรรมสังคม ราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคลิปในโซเชียลมีเดียที่นำเส้นผมมาแหย่ท่อน้ำตากันเอง เพื่อแก้ปัญหาท่อน้ำตาอุดตัน ว่า จริงๆ เป็นวิธีที่คนสมัยก่อนทำกัน เมื่อสงสัยว่าท่อน้ำตาตีบหรือตัน แต่ปัจจุบันเราไม่แนะนำ เนื่องจากเส้นผมไม่สะอาด การนำไปแยงท่อน้ำตาซึ่งเป็นส่วนที่มีโอกาสติดเชื้อง่ายและสูง และต่อลงไปถึงโพรงจมูก อาจทำให้เกิดอาการอักเสบและติดเชื้อบริเวณท่อระบายน้ำตาลงไปถึงโพรงจมูกได้

“การเอาสิ่งแปลกปลอมไปแยงดวงตามีโอกาสสูงให้เกิดอุบัติเหตุหรือเกิดความเสียหาย เช่น เป็นแผลบริเวณกระจกตาดำ เยื่อบุตา หรือท่อระบายน้ำตา ส่วนที่บอกว่าช่วยเกาท่อน้ำตาหรือทำแล้วรู้สึกฟินๆ ความจริงคือเป็นความรู้สึกอาการคันๆ รู้สึกว่ามันสนุกดีก็เลยทำกัน ขอแนะนำว่าไม่ควรทำ”

ศ.วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า ปกติแล้วท่อน้ำตามีขนาดเล็กมาก 1 ใน 4 มิลลิเมตร การเกิดท่อน้ำตาตีบหรืออุดตันปกติจะเกิดใน 2 ช่วงอายุ คือ ท่อน้ำตาตันแต่กำเนิดจะเจอในเด็กแรกเกิด พบได้ประมาณ 4-5% ทำให้เด็กมีน้ำตาคลอหรือน้ำตาไหลข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง จะเป็นได้ตั้งแต่อายุ 1 เดือน อีกกลุ่มคือผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ประมาณ 60-70 ปีขึ้นไป เนื่องจากเมื่อเวลาผ่านไปนานมากขึ้นก็จะมีหินปูนมาเกาะ ทำให้ตีบหรือตันได้ อุบัติการณ์ขึ้นอยู่กับอายุ ยิ่งอายุเยอะก็จะพบมากกว่า แต่โดยประมาณพบอยู่ที่ 7-8%

ศ.วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องของอาการนั้น ในคนที่มีอาการเหมือนน้ำตาไหลหรือน้ำคลอต้องแยกลักษณะก่อน หากรู้สึกเป็นแค่น้ำตาเหนียวๆ เกาะที่ดวงตา ตรงนี้ไม่ใช่อาการของท่อน้ำตาตัน แต่เป็นอาการของคนที่น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาแห้งหรือโรคตาแห้ง ซึ่งจะเหลือเป็นเมือกๆ เกาะตา จึงรู้สึกว่าเหมือนมีน้ำตาคลอตา แต่ไม่ได้เกิดจากท่อน้ำตาตัน ก็จะรักษาโดยให้น้ำตาเทียมหยอด

“หากสงสัยว่าจะเป็นท่อน้ำตาตัน น้ำตาที่คลอจะต้องไหลออกมาเลยเป็นหยดออกจากตาเลย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุอาจเกิดจากท่อน้ำตาตัน จักษุแพทย์จะใช้เครื่องมือล้างทดสอบดูว่าท่อระบายน้ำตาตันจริงหรือไม่ หากตันจริงอาจขยายท่อน้ำตาให้ หรือหากจำเป็นต้องผ่าตัดก็จะผ่าตัด ซึ่งมีความปลอดภัย”

ศ.วุฒิคุณ นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีในเด็กแรกเกิดเราจะสังเกตอาการ ถ้าอายุ 1 ขวบยังไม่หายก็สามารถแยงท่อน้ำตาได้ โดยใช้เส้นลวดทางการแพทย์ และดำเนินการโดยจักษุแพทย์ก็จะมีความปลอดภัย ทั้งนี้ หากมีอาการสงสัยเกี่ยวกับดวงตาควรไปพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยและให้การดูแลรักษาอย่างถูกต้อง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ