อย่าหาทำ! สาวมาเลย์โชว์เปิบพิสดาร กินตับไก่ดิบ ลั่นนี่คือของโปรด

Home » อย่าหาทำ! สาวมาเลย์โชว์เปิบพิสดาร กินตับไก่ดิบ ลั่นนี่คือของโปรด



อย่าหาทำ! สาวมาเลย์โชว์เปิบพิสดาร กินตับไก่ดิบ ลั่นนี่คือของโปรด ถึงกับยกนิ้วให้ แต่แพทย์เตือนระวังติดเชื้อโรคจนอันตรายถึงชีวิต

การทานอาหารแบบดิบ ๆ นั้นเสี่ยงต่อสุขภาพมากกว่าอาหารชนิดอื่น เนื่องจากอาจเกิดอาการอาหารเป็นพิษ ได้รับเชื้อโรคหรือสารปนเปื้อนอื่น ๆ จนเกิดอันตรายต่อร่างกาย

ล่าสุด มีกระแสไวรัลจากประเทศมาเลเซียที่สาวรายหนึ่งออกมาโชว์เปิปพิศดารสุดสยองด้วยการกินตับไก่ดิบลงในติ๊กต็อก พร้อมระบุแคปชั่นว่า ตับไก่ดิบ เป็นหนึ่งในอาหารจานโปรดของเธอ “นี่คือสิ่งที่ฉันชอบ มีใครอยู่กับฉันไหม”

ภาพจาก Tiktok

โดยคลิปมีความยาว 19 วินาที เริ่มด้วยการที่เธอหยิบเนื้อตับไก่ดิบชิ้นหนึ่งขึ้นมาจากชามก่อนจะนำเข้าและเคี้ยวให้ละเอียด เท่านั้นไม่พอ หลังจากกินตับแล้ว ในที่สุดเธอก็แสดงความชื่นชอบส่วนตัวราวกับอร่อยมากด้วยการยกนิ้วให้กล้อง

งานนี้ พาชาวติ๊กต็อกถกเถียงกันสนั่น หลายคนได้แบ่งปันความกังวลและคลื่นไส้ต่อการกินดังกล่าว แต่บางคนเชื่อว่าร่างกายของเธอถูกครอบงำโดยสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ “ฉันไม่ต้องการแม้แต่กลิ่นไก่ดิบ เธอกำลังกินตับไก่ดิบอยู่” “น่าสะอิดสะเอียนจังเลย” “บ่อยครั้งถ้าคุณชอบกินของคาว ๆ เลือด ๆ แบบนี้ แสดงว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในร่างกายคุณ”

กินตับไก่ดิบ

ภาพจาก Tiktok

“เธอต้องหาหมอผี” “วันนี้คุณกินอะไร กินหัวใจของคุณเหรอ” “จริงจังมั้ย” “กลิ่นไก่ทนไม่ได้จะกินดิบ ๆ แบบนั้นได้ยังไง” นอกจากนี้ ผู้ใช้บางคนยังชี้ให้เห็นว่ามันอาจเป็นอันตรายได้เนื่องจากความเป็นไปได้ของพยาธิในเนื้อสัตว์ โดยการทานเนื้อไก่ดิบมีแนวโน้มที่จะติดเชื้อ Salmonella, Campylobacter, E. coli และอื่น ๆ ที่มักจะพบได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์นม และอาหารทะเล

ซึ่งทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ หลังจากที่ได้กินอาหารไปแล้วประมาณ 6–24 ชม.จะมีอาการอยู่ประมาณ 1–5 วัน อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนทางสุขภาพ ได้แก่ คลื่นไส้, อาเจียน, ท้องเสีย, ปวดท้อง, มีไข้ และอ่อนเพลียอาจเกิดการติดเชื้อรุนแรง หรือผู้ใดที่ไม่มีภูมิต้านทาน อาจถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือด เสียชีวิตได้

กินตับไก่ดิบ

ภาพจาก Tiktok

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขย้ำว่า ทุกเมนูอาหารที่ปรุงด้วยตับ ทั้งตับวัว ตับหมู และตับไก่ รวมทั้งอาหารทุกอย่างที่เป็นเนื้อสัตว์ห้ปลอดภัยนั้น ควรผ่านการปรุงให้สุกโดยใช้ความร้อนให้อาหารสุกอย่างทั่วถึงด้วยอุณหภูมิตั้งแต่ 70 องศาเซลเซียสขึ้นไป เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 นาที ไม่ควรหยิบจับด้วยมือเพราะอาจทำให้เสี่ยงปนเปื้อน เชื้อโรคจากมือที่ไม่สะอาด แนะนำให้ใช้ช้อน ส้อม หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในการหยิบจับแทน เพื่อสุขอนามัยที่ดี

ขอบคุณที่มาจาก Mothership กรมอนามัย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ